ข่าว

ตร.ฝากขัง 6 ผู้ต้องหา "กลุ่มวีโว่" ถูกจับ "ม็อบ7สิงหา" ยึดของกลางเพียบ 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เจ้าหน้าที่ ฝากขัง 6 ผู้ต้องหา "กลุ่มวีโว่" ที่ถูกจับในการชุมนุม "ม็อบ7สิงหา" ยึดของกลางจำนวนมาก  ลูกเหล็ก ระเบิดควัน โดยถูกแจ้งข้อหา อั้งยี่ ซ่องโจร

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวคมชัดลึกออนไลน์ รายงานว่า พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ส่งคำร้องฝากขังผ่านระบบทางไกลผ่านจอภาพ ของ 6 ผู้ต้องหา กลุ่มวีโว่ พร้อมของกลางรวม 16 รายการ ประกอบด้วย 

  1. นายโสภา อายุ 44ปี 
  2. นายจิรพงศ์ อายุ 23ปี 
  3. นายทนง อายุ 19 ปี 
  4. นายณัฐพงษ์ อายุ 22ปี 
  5. น.ส.ภัชราภรณ์ อายุ 22ปี 
  6. น.ส.กัลยกร 21 ปี 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการฝากขังครั้งนี้เป็นการฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่ 9 - 20 ส.ค. 2564 เนื่องจากยังสอบสวนไม่เสร็จสิ้น พนักงานสอบสวนยังต้องสอบพยานเพิ่มอีก 6 ปาก รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาทั้งหมดมาประกอบสำนวนการสอบสวน

สำหรับพฤติการณ์ผู้ต้องต้องหาทั้งหมด ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับข้อมูลจากการสืบสวนหาข่าวของตำรวจสันติบาลว่าจะมีกลุ่มราษฎร 63 กลุ่มชักชวนให้ประชาชนร่วมกิจกรรมชื่อ #ม็อบ7สิงหา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจำกัดอำนาจสถาบันกษัตริย์ , ปลดแอกประชาธิปไตยขับไล่ทหารออกจากเมือง , ลดความเหลื่อมล้ำของรัฐและสวัสดิการถ้วนหน้า 



 

โดยนัดกันในวันที่ 7 ส.ค. เวลา 13.00 น. มีจุดตั้งต้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง และจะเคลื่อนขบวนไปยังบริเวณพระบรมมหาราชวัง เพื่อยื่นหนังสือต่อสำนักพระราชวังเพื่อขอวัคซีนให้ประชาชน ต่อมาได้ข้อมูลการสืบสวนว่าจะมีกลุ่มคณะบุคคลที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มวีโว่ (WEVO) ซึ่งมี นายปิยะรัตน์ จงเทพ เป็นหัวหน้าของกลุ่มดังกล่าว มีพฤติการณ์ชุมนุมมั่วสุมกันโดยปกปิดวิธีการดำเนินการเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย

ซึ่งมีการซ่องสุม ฝึกกำลังพลและแฝงตัวมาในกลุ่มผู้ชุมนุม และใช้โอกาสทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสร้างสถานการณ์โดยใช้อาวุธจำพวก หนังสติ๊ก ลูกเหล็ก ระเบิดควัน สิ่งของสกปรกเช่นน้ำปลาร้า และวัตถุอื่น ซึ่งอาจใช้เป็นอาวุธได้มาก่อเหตุสร้างความวุ่นวายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลรักษาความปลอดภัย อีกทั้งกลุ่มบุคคลดังกล่าวยังมีการสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิด เกี่ยวกับการสร้างสถานการณ์ในการชุมนุม ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจและสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง

โดยพบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวได้นัดรวมตัวในวันเวลาเดียวกัน และมีการวางแผนกำหนดแนวปะทะเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณหน้าศาลฎีกา โดยแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุดคือ ชุดตัดลวดเป็นด่านหน้าเข้ารื้อสิ่งกีดขวางและชุดดึงดันเข้าปฏิบัติการเปิดทางให้มวลชนเข้าไปในพื้นที่มีการใช้อาวุธตอบโต้เจ้าหน้าที่ประกอบด้วยหนังสติ๊กแบบเลเซอร์โดยใช้หัวน็อต ลูกแก้ว เป็นอาวุธ 

มีการสร้างสถานการณ์โดยใช้ พลุตะไล(ทำจากท่อพีวีซี) ระเบิดปิงปอง รวมถึงอาวุธปืนและมีการใช้รถยนต์ตู้ที่ใช้ขนอุปกรณ์การป้องกันตัวและอุปกรณ์การตอบโต้ เจ้าหน้าที่เช่นระเบิดควันพุเสื้อเกราะอ่อนไปยังจุดชุมนุม ส่วนในเรื่องการแต่งกายไม่ต้องติดสัญลักษณ์กลุ่มวีโว่WEVO โดยจะมีสัญลักษณ์พิเศษแจกที่หน้างาน รองเท้าผ้าใบ , อุปกรณ์เซฟตี้ , ถุงมือหนังพร้อมกับอุปกรณ์ครบชุด (หน้ากากกันแก๊ส,วิทยุ,ไฟฉาย,เสื้อเวสบรรจุแผ่นเกราะ)

ต่อมาเมื่อวันที่ 7 ส.ค. เวลาประมาณ 11.00 น. ชุดจับกุมได้พบ รถตู้สีขาวต้องสงสัย ทะเบียน บฉ2068 สมุทรสาคร จึงเข้าไปตรวจสอบและพบว่านายโสภา ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้ครอบครองรถ ซึ่งมีสติ๊กเกอร์สัญลักษณ์ของกลุ่มวีโว่ wevo ติดอยู่เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้นและพบของกลาง 11 รายการ ที่ท้ายรถตู้ คือ เข็มขัดสนาม,ปลอกแขนเกาะแบบผ้า , กระเป๋าเป้สีดำ , หนังสติ๊ก1อัน , หัวนอตตัวเมียจำนวน 11 ตัว , ลูกแก้ว 8 ลูก , ลูกดิน , พลุควันสีแบบดึงสลักจำนวนห้าอัน ,วิทยุสื่อสารสองเครื่อง , กระบองเหล็กยืดหดได้ (ดิ้ว)

ต่อมามีนายจิรพงษ์ ผู้ต้องหาที่ 2 และนายทนง ผู้ต้องหาที่ 3 เดินมาแสดงตัวกับตำรวจว่าเป็น บุคคลในกลุ่ม wevo โดยทั้ง 2 คนได้พกวิทยุสื่อสารด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบรถยนต์โตโยต้า วิช ที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียงและพบ น.ส.กัลยกร ผู้ต้องหาที่ 6 ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ดังกล่าวนั่งอยู่ในที่นั่งคนขับและพบนายณัฐพงษ์ ผู้ต้องหาที่ 4 นั่งอยู่เบาะด้านข้างโดยมี น.ส.ภัชราภรณ์ ผู้ต้องหาที่ 5 นั่งอยู่ที่เบาะด้านหลัง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อตรวจค้น และพบของกลางอีก 5 รายการ ประกอบด้วย หน้ากากป้องกันแก๊ส , เข็มขัดสนาม , วิทยุสื่อสาร3 เครื่อง ซึ่งอยู่บริเวณเบาะหลัง จากนั้นจึงได้ทำการจับกุม

โดยแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1-6 ดังนี้นายโสภา ผู้ต้องหาที่ 1 กระทำความผิดอั้งยี่ , ซ่องโจร , มีเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตและพกพาอาวุธ(กระบองเหล็กยืดหดได้) ไปในเมืองหรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 วรรคแรก , 210 วรรคแรก , 371 ,พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 มาตรา 6, 23

แจ้งข้อกล่าวหานายจิรพงศ์ ผู้ต้องหาที่ 2 นายทนง ผู้ต้องหาที่ 3 น.ส.กัลยกร ผู้ต้องหาที่ 6 ว่ากระทำความผิดฐานอั้งยี่,ซ่องโจร เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 วรรคแรก , 210 วรรคแรก

แจ้งข้อกล่าวหา นายณัฐพงษ์ ผู้ต้องหาที่ 4 ,น.ส.ภัชราภรณ์ ผู้ต้องหาที่ 5 กระทำผิดฐานอั้งยี่ ,ซ่องโจร , มีเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 วรรคแรก ,210 วรรคแรก ,พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 มาตรา 6 ,23

เหตุเกิดที่ ลานจอดรถของวัดมหรรณพารามวรวิหาร ถนนตะนาว แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพฯ ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนผู้ต้องหาที่ 1-6 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ