เสียดายจนตาย ถ้าไม่ได้ดู | คมชัดลึก

  นายวิจิตร อัศวรัตน์ ประธานคณะกรรมการจัดงานแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ ประจำปี 2552-2553 กล่าวถึงสีสันของเทศกาลตรุษจีนปากน้ำโพว่า ล่าสุดการแสดงที่ตรึงสายตาทุกคู่ของผู้ชมให้จดจ้องอยู่บนเวที เป็นการแสดงกวนอิมพันมือ แม้จะเป็นการแสดงที่ไม่ยาวนานมากจนเยิ่นเย้อ แต่ตลอดระยะเวลาของการแสดงที่เกิดขึ้นสามารถสะกดทุกสายตาของผู้ชมให้จดจ้องแทบไม่กะพริบอยู่บนเวทีเพียงอย่างเดียวเลย แม้แต่ตัวเองก็ยังรู้สึกเช่นนั้น ไม่กล้ากะพริบตา เนื่องจากเป็นการแสดงที่สวยงาม และน่าดูชนิดที่ว่า ใครไม่มาชมในงานนี้ บอกได้คำเดียวว่า "เสียดาย"

 ที่กล่าวเช่นนี้ เพราะหลังจากได้ชมการแสดงด้วยตัวเองในวันแรก พร้อมกับท่านทูตจีน และคณะกรรมการทุกคน ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า คุ้มค่ากับการตั้งตารอคอยการแสดงชุดนี้ เพื่อมาแสดงในงาน และคุ้มค่ากับที่ทีมงานคณะกรรมการเดินทางไปถึงประเทศจีน เพื่อติดต่อมาแสดงในเทศกาลตรุษจีนปีนี้

 "ได้ชมแล้ว รู้สึกทึ่งกับความสามารถ ที่ทุกคนแสดงบนเวทีสามารถเป็นหนึ่งเดียว ประสานกัน และแสดงได้อย่างอ่อนช้อย สวยงาม ทั้งแสงไฟที่ใช้ประกอบ เมื่อมาผนวกเข้ากับการแต่งกาย และลีลาที่โยกตัวอย่างอ่อนช้อยแล้ว ไม่มีคำใดกล่าวได้ว่า สวยจริง" นายวิจิตร กล่าว

 นอกเหนือจากคณะกรรมการ และผู้ใหญ่ที่มาร่วมงานจะชื่นชมแล้ว จากที่ได้พูดคุยกับแขกที่เข้าชมต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เคยชมการแสดงที่สวยงามขนาดนี้มาก่อน และถ้าไม่ได้ชมในงานนี้ต้องเสียดายไปอีกนาน เนื่องจากการแสดงชุดกวนอิมพันมือไม่ได้มีมาให้ชมในเมืองไทยบ่อยครั้ง ครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ในงานตรุษจีนนครสวรรค์ ผู้ชมที่มาร่วมงานนี้สามารถเข้าชมได้ถึง 8 คืนด้วยกัน ชมกันได้เต็มอิ่ม และเต็มรูปแบบ

 นายวิจิตร กล่าวอีกว่า ใช่ว่าจะมีการแสดงกวนอินพันมือเพียงอย่างเดียว เพราะก่อนจะถึงการแสดงกวนอิมพันมือนี้ บนเวทีมีการแสดงที่เป็นศิลปวัฒนธรรมที่ผสมผสานของความเป็นไทยและจีน หลายชุดด้วยกัน เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้เข้าชมก่อนจะถึงการแสดงชุดส่งท้ายอย่างกวนอินพันมือ ซึ่งเป็นไฮไลท์ส่งท้ายของผู้ชมก่อนกลับบ้าน

 ดังนั้น ใครที่ยังไม่ได้มางานตรุษจีนนครสวรรค์ก็ยังสามารถมาร่วมงานได้ เพราะงานนี้จะมีไปจนถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ โดยวันที่ 13 กุมภาพันธ์ จะเป็นการร่วมส่งท้ายปีเก่าจีน และเคานท์ดาวน์รับวันปีใหม่จีนร่วมกัน ซึ่งจะมีการจุดพลุตระการตา ส่วนวันที่ 17 และ 18 กุมภาพันธ์ จะเป็นการแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ฯ ซึ่งเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมาเกือบ 100 ปี 

 ผู้ที่มาร่วมงานนี้จึงได้ทั้งบุญ และได้ความสนุกสนานกลับบ้านไปด้วย