ศาลอังกฤษสั่งจำคุกแม่กับแฟนหนุ่ม ฆาตกรรมลูกสาว 3 ขวบขัดจังหวะกิจกรรมบนเตียง

ศาลอังกฤษสั่งลงโทษ นิโคลา เจยด์ พรีสต์ แม่วัย 23 ปี กับเพื่อนชาย ฐานฆาตกรรมเด็กหญิงเคย์ลี-เจยด์ ลูกสาววัย 3 ขวบ หลังจากเด็กน้อยร้องไห้ ส่งเสียงขัดจังหวะขณะทั้งคู่กำลังมีเพศสัมพันธ์ โดยศาลสั่งจำคุกแม่เด็ก 15 ปี ส่วนคัลลัม เรดเฟิร์น เพื่อนชายของเธอ ถูกสั่งจำคุก 14 ปี ผู้พิพากษากล่าวว่า ทั้งคู่บันดาลโทสะ ทุบตีเด็ก 3 ขวบอย่างรุนแรงจนถึงแก่ความตาย เมื่อสิงหาคมปีที่แล้ว 

ตำรวจเขตเวสต์มิดแลนด์ โพสต์คลิปจากกล้องวงจรปิด  เผยช่วงเวลาสุดท้ายของเด็กหญิงยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งหลายคนระบุว่าไม่มีจังหวะไหนที่แม่สนใจหรือคิดจะจูงมือลูก  ตำรวจกล่าวว่า  อาการบาดเจ็บของเด็กรวมถึงถูกชก เตะ หรือกระทืบซ้ำ ๆ หลายครั้ง  ซี่โครง 1 ซี่ทะลุถึงปอด เด็กถูกพบเสียชีวิตในเช้าวันต่อมา  เวลา 11.00 น. เมื่อพรีสต์ลุกจากเตียงมาดูลูก และหากรีบติดต่อรพ.ทันที เด็กก็น่าจะรอด  แต่ผู้เป็นแม่ซึ่งตำรวจระบุว่าเสพติดสื่อสังคมออนไลน์ ส่งข้อความคุยกับเพื่อน ๆ และเรดเฟิร์น แฟนของเธอแทน 

ลตรวจสอบศพเด็กหญิงทางพยาธิวิทยายังพบร่องรอยกระดูกหน้าอก ซี่โครงและฟันกรามเคยแตกร้าวมาก่อน แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่เหยื่อถูกกระทำอย่างรุนแรง  แต่ไม่เคยมีประวัติการรักษา และทั้งแม่กับแฟนหนุ่มไม่มีคำอธิบายว่าอาการบาดเจ็บเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร 

นอกจากนี้ ระหว่างสอบสวน ตำรวจพบข้อความสนทนาระหว่างทั้งคู่ เป็นการหารือเรื่องการลงโทษทางร่างกายเด็กหญิง เช่น เมื่อ 24 ก.ค.2563 ก่อนเคย์ลีเสียชีวิต  พรีสต์บอกเรดเฟิร์นว่า “ฉันจะฆ่ามัน  มันเทียวเข้าออกห้องนักเล่น ไม่ก็เข้าในห้องครัว เลยฟาดไป 1 ที และตบอีกทีฐานอึในผ้าอ้อม” เรดเฟิร์น ตอบว่า “ดี-ฝากฟาดด้วย 1 ที”  พรีสต์ : “ได้เลย ที่รัก”  

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ เด็กหญิงเคย์ลี ถูกสั่งให้เข้านอนเวลาประมาณ 19.00 น. แต่เป็นธรรมดาของเด็กวัยนี้ที่ไม่อยากนอนไว ยังติดเล่นอยู่ เด็กร้องงอแงขอออกจากห้อง ขัดจังหวะขณะที่ทั้งสองต้องการจะมีเซ็กส์  จึงโกรธจัดและทำร้าย ไม่พบหลักฐานว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับเหยื่อ แต่หลังถูกทุบตี เด็กหญิงอาเจียนหลายครั้ง และเสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บสาหัสในช่องท้องและหน้าอก   แม่เด็กโทรแจ้งเหตุสายด่วนแต่เด็กเสียชีวิตแล้วในเวลานั้น  ผู้เชี่ยวชาญเปรียบอาการบาดเจ็บของเด็กหญิงเหมือนกับถูกรถชนที่ความเร็ว 64 กม./ชม. หรือตกจากชั้น 3 ลงมาบนพื้นคอนกรีต  

ระหว่างพิจารณาคดี ทั้งคู่ต่างโยนบาปให้อีกฝ่าย แต่ผลสอบสวนพบว่า เรดเฟิร์นคือตัวการหลัก ส่วนพรีสต์ นอกจากข้อหาฆาตกรรม ยังมีความผิดกระทำทารุณกรรมต่อเด็กอีกข้อหา จากอาการบาดเจ็บในอดีตของเด็กหญิง ทั้งสองจะต้องรับโทษ 2 ใน 3 ก่อนจะได้รับการพิจารณาปล่อยตัวและภาคทัณฑ์