ข่าว

สหภาพรถไฟ ค้านใช้ "โบกี้-ตู้เชื้อเพลิง" ปิดเส้นทางม็อบ หวั่นเกิดอันตราย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สตช,ทำหนังสือถึง ผู้ว่าฯ รฟท. ขอรับการสนับสนุน "โบกี้รถไฟ-ตู้เชื้อเพลิง" สำหรับปฏิบัติงาน ขณะที่สหภาพรถไฟ ออกแถลงการณ์ คัดค้านการใช้ตู้น้ำมัน เพราะเสี่ยงเกิดเหตุอันตราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) ปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร. มีหนังสือด่วนที่สุด ตช 0001(มค3)/570 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2564 ถึงผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เรื่องขอความอนุเคราะห์ตู้โบกี้รถไฟและตู้เชื้อเพลิง

 

 

โดยมีใจความว่า ด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบ กำหนดมาตรการที่จำเป็น และเหมาะสมในการทำกิจกรรม ในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

 

เพื่อให้การดำเนินการกำหนดมาตรการที่จำเป็น และเหมาะสมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงขอความอนุเคราะห์มายังท่าน ขอรับการสนับสนุนตู้โบกี้รถไฟ และตู้เชื้อเพลิงที่ปลดระวาง และหมดความจำเป็นแล้ว ดังนี้

 

1.ตู้โบกี้(ชำรุด) จำนวน 10 ตู้

2.แคปซูลน้ำมัน (ถอดจากรางแล้ว) จำนวน 8 ถัง

3.แคปซูลน้ำมัน (ยังไม่ถอดจากราง ) จำนวน 12 ถัง

 

เพื่อใช้ประโยชน์ในราชการของสำนักงานแห่งชาติต่อไป ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.กิตตินันท์ ดีอ่วม นายเวร (สบ 3) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ประสานงาน จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา และกราบขอบพระคุณในความอนุเคราะห์ ขอแสดงความนับถือ

 

ขณะเดียวกัน สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตู้รถไฟ และตู้บรรทุกน้ำมัน มาวางปิดการพื้นที่บริเวณสนามหลวง เพื่อปิดกั้นเส้นทางไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถเดินทางเข้าถึงเหตุหวงห้าม โดยระบุว่า

 

ตามที่มีการนำเสนอภาพทางสื่อออนไลน์ และสื่อทั่วไป โดยภาพดังกล่าวให้เห็นถึงการนำตู้รถไฟซึ่ง อาจจะเลิกใช้การแล้ว ไปเป็นแนวกันชน ป้องกันผู้ชุมนุมไม่ให้เข้าไปในเขตหวงห้ามนั้น สร.รฟท.ไม่เห็นด้วย เนื่องจาก

 

1.หากมีผู้ไม่ประสงค์ดี ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด อาจนำวัตถุอันตรายไปใส่ไว้ในตู้ ที่ปิดมิดชิด โดยเฉพาะตู้บรรทุกน้ำมัน แล้วเกิดเหตุอันตรายที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นจนอาจก่อให้เกิดความสูญเสียเกิดขึ้น จะไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย โดยเฉพาะรัฐบาล

 

 

2.จะเกิดความเข้าใจผิดกับผู้ที่เคลื่อนไหว ประชาชน ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางและวิธีการดังกล่าวจะกล่าวหาได้ว่าผู้ บริหารการรถไฟ สหภาพรถไฟ คนรถไฟ ถูกครอบงำสั่งการ จากนักการเมือง หรืออาสาดำเนินการเอง ก็จะเกิดความขัดแย้งกับประชาชนที่เห็นต่างกับรัฐบาล เพราะการรถไฟฯมีหน้าที่ในการให้บริการประชาชน เป็นมิตร ให้บริการกับทุกคนโดยไม่เลือก เชื้อชาติ ศาสนา เพศสภาพ สีผิว หรือลัทธิความเชื่อใด

  

3.จากประวัติศาสตร์การต่อสู้ภาคประชาชนต่อความขัดแย้งทางความคิด อุดมการณ์ทางการเมือง และความไม่พอใจต่อรัฐบาลนั้น ปราการแค่นี้คงไม่สามารถทานกระแสและการลุกขึ้นสู้ของประชาชนได้ จึงไม่ควรก่อให้เกิดสถานการณ์น้ำผึ้งหยดเดียว

  

4.ความขัดแย้ง ความเห็นต่าง การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลที่ขยายเป็นวงกว้างในเวลานี้ จากหลายเรื่อง หลายประเด็นทั้งเรื่อง อำนาจทางการเมือง การจัดการเรื่องเศรษฐกิจ จนมาถึงวิกฤตการณ์ด้านสังคมจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ซึ่งเข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อน แต่รัฐบาลต้องแสวงหาแนวทางโดยสันติวิธีในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชนที่เห็นด้วย เห็นต่าง อย่างเข้าใจ และเป็นมิตร จริงใจ

 

ดังนั้น จึงขอให้ยกเลิกการนำตู้รถไฟไปเป็นแนวกั้นการชุมนุมของประชาชนและขอให้ผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบว่าการนำตู้รถไฟไปออกไปนั้นกระทำการด้วยวิธีการอย่างไร ใครเป็นคนสั่งการ สร.รฟท.ยืนยันว่าไม่เห็นด้วย ดังเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น และการเคลื่อนไหวของประชาชนหากเคลื่อนไหวด้วยสงบ ปราศจากอาวุธ สันติ ก็เป็นสิทธิที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และ กฎหมายในระดับสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และขอให้รัฐบาลคำนึง ตระหนักถึงสิทธิเหล่านี้
 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ