ข่าว

เตือนภัย "ผู้ประกันตน ม.33" ระวัง โดนหลอกกรอกข้อมูลส่วนตัว อ้างรับ"เงินเยียวยา"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนภัย"ผู้ประกันตน ม .33" ระวัง ถูกหลอกขอข้อมูลรับ"เงินเยียวยา" ผ่าน Google Form และ SMS ปลอม

7 ส.ค. 64 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีการโอนเงินช่วยเหลือผู้ประกันตน มาตรา 33 ที่ในพื้นที่สีแดงเข้ม 9 ประเภทกิจการ 13 จังหวัด ซี่งจะได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล คนละจำนวน 2,500 บาท  

 

เตือนภัย "ผู้ประกันตน ม.33" ระวัง  โดนหลอกกรอกข้อมูลส่วนตัว อ้างรับ"เงินเยียวยา"

 

 

 

ซี่งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทยได้ตรวจสอบ กรณีที่มีการ การเชิญชวนให้ผู้ประกันตน ม.33 กรอกข้อมูลส่วนตัวผ่าน Google Form เพื่อยื่นความประสงค์รับเงินเยียวยา 2,500 บาทนั้น ทางสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงานได้ตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงว่า Google Form ดังกล่าว จัดทำขึ้นโดยมิจฉาชีพเพื่อหลอกลวงขโมยข้อมูลสำคัญของประชาชน

 

มิจฉาชีพได้จัดทำ Google Form และส่งข้อความผ่าน SMS ปลอม ไปสอบถามข้อมูลส่วนตัว เพื่อหลอกลวงให้ผู้ประกันตนแจ้งความประสงค์รับเงินเยียวยา 2,500 บาท และให้กรอกเลขบัตรประจําตัวประชาชน เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ จนนำไปกดลิงก์เพื่อยืนยัน ซึ่งเป็นการใช้ความสับสนของผู้ประกันตนมาเป็นกลลวงที่อาจนำมาซึ่งความเสียหาย ทั้งทรัพย์สิน และการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งพวกมิจฉาชีพจะนำไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ  สำนักงานประกันสังคมจึงขอเตือนให้ผู้ประกันตนโปรดระมัดระวังอย่าหลงเชื่อเป็นอันขาด

 

เตือนภัย "ผู้ประกันตน ม.33" ระวัง  โดนหลอกกรอกข้อมูลส่วนตัว อ้างรับ"เงินเยียวยา"

 


ทั้งนี้ นางสาวลัดดา แซ่ลี้ รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงการรับสิทธิรับเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งล็อกดาวน์พื้นที่สีแดงเข้ม รวม 13 จังหวัด 9 ประเภทกิจการ ว่า ขณะนี้มีผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวนกว่า 3.1 ล้านคน ที่มีสัญชาติไทย จะได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลคนละ 2,500 บาท

 

สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายครั้งเดียวโดยโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชนเท่านั้น ซึ่งเงินเยียวยาจะเริ่มโอนเงินรอบแรกในวันที่ 4 – 6 สิงหาคม 2564 นี้ ส่วนที่เหลือจะทยอยโอนให้ ทุกวันศุกร์ ของสัปดาห์ถัดไป โดยผู้ประกันตนมาตรา 33 สามารถตรวจสอบสิทธิรับเงินเยียวยา ผ่านเว็บไซต์ www.sso.go.th

 

 

 

 


 

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจาก สำนักงานประกันสังคม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.sso.go.th หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506

 

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป

 

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน  5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ