"จะสู้เพื่อสตรี" คำให้การของ “อ้วน" อารีวรรณ | คมชัดลึก

 เธอยอมรับว่าช่วงนั้นเครียดจนคิดฆ่าตัวตาย รู้สึกอับอาย เหมือนตกนรกทั้งเป็น แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง เป็นหญิงแกร่ง ทั้งบุคลิก การพูดจา ความคิด แตกต่างจากหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงเมื่อ 13 ปีก่อน พร้อมกับสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของตัวเองด้วยการมุ่งหน้าสู่เส้นทางนักกฎหมาย เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ผู้หญิงในสังคม

 “ก่อนหน้านี้ไม่รู้เรื่องกฎหมาย จนตอนนี้ได้มาทำงานด้านกฎหมาย ได้เรียนรู้ข้อกฎหมาย ได้บอกเล่าเรื่องราวความจริงที่เกิดขึ้นให้สังคมได้รับรู้ถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนหนึ่ง ตอนนี้เรียนจบปริญญาโทด้านกฎหมายมหาชนแล้ว ทำงานเป็นทนาย ช่วยเหลืองานมูลนิธิต่างๆ ด้วยการเป็นที่ปรึกษาให้แก่แต่ละกรณี ตั้งแต่การเตรียมตัวเวลาตกเป็นผู้เสียหาย การฟ้องร้อง คือเราไม่ได้เป็นแค่ทนายความทั่วไปที่จะยุให้ฟ้องอย่างเดียว แต่จะคุยให้เขาเกิดการตกผลึกทางความคิดก่อนว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร  อะไรคือสิ่งที่เขาต้องการ แล้วค่อยมาคุยกันว่าจะไปในทิศทางนั้นอย่างไร นอกจากนี้ยังช่วยงานสภาสตรี สภาทนายความ เขียนบทความ เป็นอาจารย์พิเศษสอนกฎหมาย และเป็นวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับความรุนแรงต่อสตรี โดยอาศัยความรู้ที่เรามีถ่ายทอด ให้คนรู้สึกว่ากฎหมายเป็นเรื่องเข้าใจง่าย” อ้วน เล่าสิ่งที่ตัวเองกำลังตั้งใจทำ

 หลายเรื่องราวร้ายๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอร้ายแรงน่าจะลืมเลือนมากกว่าจดจำ แต่เธอยินดีถ่ายทอดด้วยความเต็มใจ นั่นเพราะมองว่าโครงสร้างของสังคมไทยมีความเชื่อว่า "ความในอย่านำออก ความนอกอย่านำเข้า" แต่จากการทำงานเธอพบว่าปัญหาความรุนแรงเกิดขึ้นในทุกสังคม ไม่ใช่แค่กลุ่มผู้ใช้แรงงานเท่านั้น อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่อยากเข้าไปยุ่ง เพื่อนบ้านก็เห็นว่าเป็นเรื่องผัวเมีย สักพักก็ดีกัน จึงทำให้ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อไม่ได้รับการช่วยเหลือ

 "มีเคสประทับใจเคสหนึ่ง เป็นเรื่องของหญิงมุสลิมที่อยู่ทางภาคใต้ เขาถูกกดดันโดยโครงสร้างสังคม วัฒนธรรม ศาสนา หนักกว่าเราอีก แต่เราคุยกับเขาจนเขาฮึดขึ้นมาที่จะต่อสู้ แก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง ดีใจตรงที่อย่างน้อยเขาก็เข้มแข็ง ไม่คิดฆ่าตัวตาย และเริ่มสร้างเครือข่ายมาช่วยเหลือคนอื่นๆ ต่อไป ไม่ให้ผู้หญิงที่ถูกกระทำตกอยู่ในมุมมืดของสังคมอย่างเดียวดาย” อ้วนย้ำความตั้งใจ 

 ทั้งนี้ เธอมองปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิงทุกวันนี้ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังรณรงค์ไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย หลายครั้งผู้หญิงมักให้ความสนใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะที่ผู้ชายไม่ได้ให้ความสำคัญ จึงอยากให้หญิงและชายมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันมากกว่าที่เป็นอยู่

 "เราเคยผ่านตรงนั้นมาแล้วเลยเข้าใจหัวอกผู้หญิงด้วยกัน อ้วนต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ไม่จำเป็นต้องถึงกับเปลี่ยนแปลงประเทศ แต่แค่ได้ช่วยเหลือคนเพียงไม่กี่คนให้รอดพ้นจากความรุนแรงก็คุ้มค่าแล้ว” ผู้หญิงหัวใจแกร่งกล่าว

 นี่คือบันทึกหน้าใหม่ของ "อ้วน" อารีวรรณ จตุทอง ผู้หญิงแกร่งกับบทบาทของนักกฎหมายที่ต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี ซึ่งในรายการ “เจาะใจ” วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 22.20 น. เธอจะมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังอย่างละเอียดอีกครั้ง