รวบ "หลานตำรวจ" จอมแสบ ขโมยปืนลุงไปขาย พบประวัติเพิ่งพ้นโทษปี61

(6ส.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงเย็นวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.ดอนเมือง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ได้บุกเข้าจับกุมนายนพพร หรืออาร์ม วงษ์หงส์ อายุ 25 ปี ข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน , ในเวลากลางคืน , โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์นั้น,โดยใช้ยานพาหนะ โดยจับกุมได้ภายในร้านเอสทำเบาะ ระหว่างซอยสายไหม 28 - 30 ถนนสายไหม แขวงสายไหม

 

   

  

ทั้งนี้ การจับกุมดังกลา่ว เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่ได้เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีมาตรการในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับความสงบเรียบร้อยที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนช่วงการแพร่ระบาดโควิด 19 พร้อมเร่งรัดตามจับกุมบุคคลที่มีหมายจับค้างเก่า 

 

โดยเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมา ผู้เสียหายซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจ ได้ขับรถยนต์มาจอดไว้หน้าบ้านพัก ซอยวิภาวดีรังสิต 84 แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ต่อมาเวลาประมาณ 13.30 น. ขณะที่ผู้เสียหายกำลังจะออกเดินทางไปทำงาน พบว่า ปืนพกสั้น ที่เบิกมาใช้งาน ยี่ห้อซิกซาวเออร์ ขนาด 9 มม. แม็กกาซีน ขนาด 9 มม. จำนวน 1 ชิ้น และ ลูกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 12 นัด ที่เก็บไว้บริเวณช่องเก็บของภายในรถยนต์ ได้หายไป รวมทั้งยังมีทรัพย์สินอื่น ๆ ที่เก็บไว้ภายในบ้านพัก ได้หายไปด้วย ผู้เสียหายจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง

 

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 03.00 น. ได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์ มาจอดใกล้กับบ้านผู้เสียหาย แล้วเดินไปก่อเหตุ และยังพบว่า ที่เอวมีอาวุธปืนเหน็บอยู่ ก่อนจะขับออกไป เมื่อทราบรูปพรรณคนร้าย เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางหลบหนีของคนร้าย จนสามารถระบุตัวตนคนร้าย รวมถึงผู้เสียหาย ได้ยืนยันว่า คนร้ายตามภาพกล้องวงจรปิดคือ นายนพพร หรืออาร์ม วงษ์หงส์ ซึ่งเป็นหลานของผู้เสียหายเอง และยังเคยมาอาศัยอยู่ที่บ้านพักของผู้เสียหายด้วย 

 

เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุญาตศาลขอหมายจับ จนล่าสุดพบว่า ได้หลบหนีมาทำงานอยู่ในร้านดังกล่าว จึงเข้าจับกุม สอบสวนเบื้องต้นรับสารภาพว่า ก่อเหจุจริง โดยนำปืนกระบอกดังกล่าวไปให้นายจู นำไปขายโดยได้ส่วนแบ่งมาจำนวน 8,000 บาท 

 

ทั้งนี้ เมื่อปี 59  ประวัติเคยถูกจับกุมในข้อหา “ลักทรัพย์” ในพื้นที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ และพ้นโทษมาปี61 จากนั้นปี 63 ถูกจับกุมในข้อหา “ขับขี่รถจักรยานยนต์เสพยาเสพติดให้โทษฯ” ในพื้นที่ สน.ดอนเมือง อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป