วิกฤติโควิด-19 "บังคับฉีดวัคซีน" ทางเดียวที่จะหลุดพ้น หลังสมัครใจถึงทางตัน

หนังสือพิมพ์เดอะ วอชิงตัน โพสต์ รายงานว่า การรณรงค์ฉีดวัคซีน โควิด-19 ของสหรัฐฯ ด้วยความสมัครใจ เดินมาถึงทางตันแล้ว และทางออกเดียวที่จะหลุดพ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) คือ "บังคับฉีดวัคซีน"

บทความของรองศาสตราจารย์และผู้อำนวยการโครงการเฮลธี บิลดิงส์ (Healthy Buildings) ที่วิทยาลัยสาธารณสุข ที เฮช ชานของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โจเซฟ จี. อัลเลน ระบุว่า มีบทเรียนมากมายจากความล้มเหลวของกลยุทธ์การฉีดวัคซีนในปัจจุบัน ได้แก่ การอนุมัติล่าช้าของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และเสียงอันแผ่วเบาของ "ผู้มีอิทธิพล" อย่างนักกีฬามืออาชีพ

"หนทางเดียวข้างหน้าคือการใช้ข้อบังคับ" อัลเลน ระบุพร้อมเสริมว่า โรงพยาบาลและคลินิกดูแลสุขภาพต้อง "บังคับฉีดวัคซีน" ตามที่องค์กรดูแลสุขภาพชั้นนำเกือบ 60 แห่งเรียกร้องเมื่อเดือนกรกฎาคม โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) กล่าวว่า ปัจจุบันมีบุคลากรด้านการรักษาพยาบาลระยะยาวและสถานพยาบาลรับวัคซีนเพียงร้อยละ 45

กระทรวงกิจการทหารผ่านศึกของสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2564 ว่า จะกำหนดให้บุคลากรการแพทย์แนวหน้าของกระทรวงฯ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งถือเป็นหน่วยงานรัฐบาลกลางแห่งแรกที่ "บังคับฉีดวัคซีน"

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อชั้นนำของสหรัฐฯ แอนโทนี เฟาซี บอกเล่าว่า ตนท้อใจมากต่อสถานการณ์โรคระบาดใหญ่ในปัจจุบัน โดยสหรัฐฯ อยู่ใน "สถานการณ์ลำบากโดยไม่จำเป็น" ขณะที่จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น และประเทศกำลัง "เดินผิดทาง"

(แฟ้มภาพซินหัว : ชายเดินผ่านป้ายประชาสัมพันธ์การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ วันที่ 26 ก.ค. 2021)