ปิดฉากดีล"ไฟเซอร์" 20 ล้านโดส "หมอบุญ" ถอดใจ เมื่อความพยายามไม่สำเร็จ

น่าจะเรียกได้ว่า ถือเป็นการปิดฉากมหากาพย์เรื่องยาว สำหรับการดีลวัคซีน"ไฟเซอร์" จำนวน 20 ล้านโดส ของ นพ.บุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ที่หมอบุญ เคยออกมาให้สัมภาษณ์หลายสื่อ หลายสำนัก ว่า มีการดีลกับบริษัท ไบโอเอนเทค (BioNTech) ของเยอรมนี เจรจาเรื่องการส่งมอบวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส กับตัวแทนจากเครือโรงพยาบาลธนบุรี  แต่เวลาผ่านไป ดูเหมือนการเซ็นสัญญานำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ ของหมอบุญ จะกลายเป็น ดีลทิพย์

 

 

15 กรกรฎาคม 2564 หมอบุญ ยังคงยืนยันว่า กำลังจะมีการเซ็นสัญญากับบริษัท ไบโอเอนเทค แต่สุดท้าย สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ไบโอเอนเทคของเยอรมนี ได้ตอบอีเมลของ Reuters ถึงกระแสข่าวที่ THG สั่งซื้อวัคซีนว่า บริษัทไม่เคยเจรจากับ THG เกี่ยวกับการขายวัคซีนดังกล่าว ทำให้เกิดกระแสข่าวตีกลับไปที่หมอบุญอีกครั้ง

แต่ความพยายามของหมอบุญ ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น หมอบุญยังคงยืนยันว่า ดีลการซื้อขายวัคซีนดังกล่าว ยังคงเดินหน้าอยู่ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการตรวจเอกสาร  แต่ไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมอะไรได้ เนื่องจากถูกทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกคำสั่งห้ามให้สัมภาษณ์ เพราะเกรงว่าจะเข้าข่ายการปั่นหุ้น 

จนกระทั่งวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จํากัด และ ไบโอเอนเทค ได้ลงนามสัญญาร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในการจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิดจำนวน 20 ล้านโดส สำหรับปี 2564 ให้กับประเทศไทย ทำให้กระแสโซเชียล กลับมาถามหาดีลวัคซีนของหมอบุญอีกครั้ง

หลังจากนั้น นพ.บุญ ยังคงยืนยันว่า ได้ตรวจสอบเอกสารสัญญาระหว่างกัน และลงนามเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะมีข่าวดีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการในอีก 2 วันข้างหน้า 

 

จนเวลาผ่านไป การเซ็นสัญญาจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ ที่หมอบุญกล่าวอ้าง ก็ยังคงเงียบ ไม่มีความเคลื่อนไหวจากหน่วยงานใด แม้หมอบุญ จะออกมาแย้มข่าวรายวันว่า มีความพยายามที่จะดีลกับหน่วยงาน ที่จะรับเป็นผู้นำเข้าวัคซีนไฟเซอร์แล้วก็ตาม 

 

 

เรื่องราวการดีลวัคซีนของหมอบุญ กลับมากระฉ่อนอีกครั้ง ล่าสุด วันที่ 3 สิงหาคม 2564 หมอบุญให้สัมภาษณ์ว่า จะมีการเซ็นสัญญากับหน่วยงานภาครัฐที่จะเป็นหน่วยงานนำเข้าวัคซีน ซึ่งถูกอ้างถึงว่าเป็นกระทรวงกลาโหม โดยหมอบุญ ระบุว่า เป็นเวลานานกว่า 2 เดือน ที่จะมีหน่วยงานภาครัฐ ออกมารับเป็นหน่วยงานนำเข้า จึงเป็นที่มา ที่ทำให้การจัดส่งวัคซีนไฟเซอร์ เกิดความล่าช้า 

ในเวลาต่อมา กระทรวงกลาโหม ได้ออกมาปฏิเสธ ถึงกรณีมีการให้ข่าวของหมอบุญ โดยยืนยันว่า ขณะนี้กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานในสังกัด ยังไม่มีแผน หรือความตกลงร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชนใด ๆ ในการสั่งซื้อ หรือนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ และที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหม ก็ยังไม่เคยติดต่อกับบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด แต่อย่างใด

 

 

ขณะเดียวกัน บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) (THG) ได้ออกหนังสือชี้แจงว่า นายแพทย์บุญ ไม่ได้เป็นผู้ให้ข้อมูลที่มีเนื้อหาดังกล่าว แก่สํานักข่าว และได้ดําเนินการแจ้งให้สํานักข่าวแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่จะว่าไปแล้ว ประเด็นสำคัญคงไม่ได้อยู่ที่ นายแพทย์บุญ จะให้สัมภาษณ์ หรือ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ ในประเด็นที่กล่าวถึง แต่ประเด็นน่าจะอยู่ที่ การดีลวัคซีนไฟเซอร์จำนวน 20 ล้านโดส มีอยู่จริงหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมา นายแพทย์บุญ พูดอยู่เสมอว่า มีความพยายามที่จะนำเข้าวัคซีนจริง แต่ติดปัญหาที่ ไม่มีหน่วยงานใดจะออกมารับเป็นเจ้าภาพ ในการเป็นผู้นำเข้าวัคซีน

 

4 สิงหาคม 2564 ดูเหมือนว่า มหากาพย์วัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส กำลังจะจบลง เมื่อ นายแพทย์บุญ ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการหนึ่งอีกครั้งว่า ถอดใจเรื่องนี้แล้ว เพราะเป็นเรื่องยากมาก ถึงแม้ว่าวัคซีนมีติดต่อได้ แต่ไม่สามารถหาหน่วยงานนำเข้าได้ ที่ผ่านมา มีความพยายามติดต่อหลายหน่วยงาน แต่ก็ไม่มีใครอยากยุ่ง เพราะอาจกลัวผลกระทบ ถูกกล่าวหามุ่งกำไร

การดีลวัคซีนไฟเซอร์เข้าประเทศไทย เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ว่าจะหน่วยงานใด นั่นคงเป็นเรื่องที่ดี  ที่ได้เกิดความพยายามขึ้นมาแล้ว ถึงแม้เงื่อนไข ข้อจำกัด มันจะไม่เอื้ออำนวย รวมถึง การดีลวัคซีนไฟเซอร์ของ"หมอบุญ"  ที่ไม่ว่าจะด้วยวัตถุประสงค์ใด แต่นั่นก็ได้เกิดความพยายามที่จะหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถึงแม้ว่ามหากาพย์เรื่องนี้ น่าจะจบลงแล้วก็ตาม