"แพทย์ชนบท" บุกกรุงครั้งที่ 3 ดีเดย์ปฏิบัติการสร้างความหวังสู้โควิด 4 - 10 ส.ค. นี้ ตั้งเป้าตรวจคัดกรองเชิงรุก 7 วัน 250,000 ราย คาดพบผู้ติดเชื้อ 32,500 ราย
นายแพทย์ สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรม "แพทย์ชนบท" เปิดเผยความคืบหน้าหลังจากการปฏิบัติการแพทย์ชนบททั้ง 2 ครั้ง วันที่ 14 - 16 และ วันที่ 21 - 23 กรกฎาคม 2564 ซึ่งมีทีมแพทย์ชนบทรวม 2 ครั้ง 20 ทีม มาร่วมบุกกรุงเพื่อตรวจคัดกรองโควิดให้กับคนกรุงในพื้นที่ชุมชนแออัดที่เข้าไม่ถึงบริการทางการแพทย์ สามารถตรวจหาเชื้อได้กว่า 51,000 ราย พบผู้ติดเชื้อกว่า 7,000 ราย และสัญญาว่า "เราจะกลับมาอีก" หลังจากการเตรียมตัวอย่างทรหดและประสานงานกันมาหลายวัน ปฏิบัติการบุกกรุงในครั้งที่ 3 จึงเกิดขึ้นอีกครั้ง แน่นอนแล้วในวันที่ 4 - 10 สิงหาคม 2564 ต่อเนื่องรวม 7 วัน ด้วยทีมบุคลากรสาธารณสุขจากต่างจังหวัดกว่า 37 ทีม เฉลี่ยทีมละ 8 - 10 คน เล็กบ้างใหญ่บ้างตามแต่ใครจะรวบรวมกำลังส่งมาช่วยกู้กรุงได้กี่คน
นายแพทย์ สุภัทร ระบุ Design การทำงานกู้ภัยโควิดในครั้งนี้จะครบวงจรมากขึ้น เริ่มด้วยการทำการ swab หาเชื้อด้วย rapid test หากได้ผลลบให้กลับบ้านได้ หรือไปรับบริการวัคซีนจากทีมของกรุงเทพมหานครที่จะมาร่วมออกหน่วยด้วย แต่หากผลเป็นบวก ก็จะถูกตามมาตรวจ RT-PCR ซ้ำ ได้รับบริการยาฟ้าทะลายโจร หรือ Favipiravir และนำเข้าระบบ Home Isolation ของ สปสช. ในวันเดียวกันเพื่อการดูแลรักษาที่ต่อเนื่อง
ครั้งนี้ ด้วยความร่วมมือที่กว้างขวาง จะมีการระดมทีมลงปฏิบัติการในชุมชนวันละ 30 จุด โดยสามารถตรวจและดูแลตามภารกิจที่วางไว้ได้จุดละ 1,000 คนต่อวัน รวมเป็นวันละ 30,000 ราย x 7 วัน ก็จะคัดกรองโรคได้ประมาณ 210,000 ราย และจะมีทีมของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ที่จะนำทีมใหญ่มาคัดกรองแบบ walk in วันละ 5,000 คน ในจุดต่าง ๆ เปลี่ยนจุดไปทุกวัน x 7 วัน ก็จะคัดกรองได้อีก 35,000 ราย
ดังนั้น จากการประมาณการ ปฏิบัติการครั้งนี้จะสามารถคัดกรองผู้คนในเมืองกรุงได้ 250,000 ราย หากผลบวกอยู่ที่ประมาณ 10 - 15 % ก็จะพบผู้ที่มีเชื้อโควิดที่จะเข้าสู่ระบบการดูแลรักษา จำนวน 25,000 - 32,500 คน ซึ่งน่าจะสามารถตัดตอนการระบาดไปได้พอสมควร และสามารถช่วยลดภาระเตียงล้นของโรงพยาบาลใน กทม. ลงได้ เพราะเราจะพยายามจ่ายยา favipiravir ให้กับผู้ติดเชื้อตามเกณฑ์ที่ควรรับยาทุกคน เพื่อลดโอกาสที่เขาจะป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล
ปฏิบัติการแห่งความหวังในครั้งนี้ เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือจากหลายฝ่ายที่รวมพลังกันสู้ภัยโควิด กทม. อันได้แก่ ชมรมแพทย์ชนบท กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กรุงเทพมหานคร รวมทั้งทีมอาสาจากภาคประชาชน คือ ทีมโควิดชุมชน (Com - Covid) เครือข่ายแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว และ IHRI และอีกหลายองค์กร เป็นความร่วมมือที่มหัศจรรย์ภายใต้เงื่อนเวลาที่เร่งรัดและทุกคนต่างก็มีภารกิจประจำอันมากมาย
หัวใจของการสู้ภัยโควิดอยู่ "ความหวัง" ปฏิบัติการครั้งนี้มุ่งสร้างความหวังให้กับทุกคนในกรุงเทพมหานคร รวมทั้งคนไทยทั้งประเทศ ด้วยความหวังที่อยากเห็นทุกคนทุกองค์กรออกมาช่วยกัน ระดมสรรพกำลังให้เต็มที่ ใครทำอะไรได้ทำ อย่าคิดนาน ทำด้วยความเร็วในอัตราเร่งที่ให้ทันกับการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตา ความหวังในท่ามกลางความหดหู่ที่แสนเหน็ดเหนื่อยเท่านั้นที่จะช่วยให้ทุกคนฮึดสู้ และรวมพลังคนไทยสู้ภัยโควิดในครั้งนี้ ให้เราผ่านมันไปด้วยความสูญเสียทั้งด้านชีวิตและเศรษฐกิจให้น้อยที่สุด แล้วพบกันกับ ปฏิบัติการแพทย์ชนบทบุกกรุงครั้งที่ 3 รายละเอียดโปรดติดตามต่อไป
หมายเหตุ ทีมที่ร่วมประวัติศาสตร์ แพทย์ชนบท สหวิชาชีพ สภาวิชาชีพ จิตอาสา ภาคประชาชน เครือข่ายแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว กระทรวงสาธารณสุข สปสช. กรุงเทพมหานคร ปฏิบัติการ 7 วัน กอบกู้กรุงเทพมหานคร และสร้างความหวังให้กับผู้คน ประกอบด้วย
- ทีม รพ. สิชล นครศรีธรรมราช
- ทีม รพ. จะนะ สงขลา
- ทีม รพ. สมเด็จนาทวี สงขลา
- ทีม สสจ. ชัยภูมิ
- ทีม สสจ. เชียงราย
- ทีม สสจ. ลพบุรี
- ทีม สสจ. น่าน
- ทีม สสจ. สุรินทร์
- ทีม สสจ. ยโสธร
- ทีม รพท. ชุมพร
- ทีม รพศ. มหาราช นครราชสีมา
- ทีม สสจ. ฉะเชิงเทรา
- ทีม สสจ. ขอนแก่น (มา 3 ทีม)
- ทีม รพ. ด่านมะขามเตี้ย
- ทีม สสจ. สุโขทัย
- ทีม สสจ. อุตรดิตถ์
- ทีม รพท. เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา จ.ระยอง
- ทีม สสจ. อุดรธานี
- ทีม สสจ. แพร่
- ทีม รพท. มหาสารคาม
- ทีม รพท. กาฬสินธุ์
- ทีม สสจ. ชุมพร
- ทีม สสจ. ระนอง
- ทีม รพ. ตากใบ + รพ. แว้ง สสจ. นราธิวาส
- ทีม รพ. รามัน ยะลา
- ทีม สสจ. พะเยา
- ทีม รพท. สมุทรปราการ (ลงพื้นที่ตนเอง)
- ทีม สสจ. เพชรบุรี
- ทีม สสจ. สุราษฎร์ธานี
- ทีม สสจ. แม่ฮ่องสอน / รพ. ปางมะผ้า
- ทีม รพ. บางกรวย 2 จ.นนทบุรี
- ทีม สสจ. นครปฐม / รพ. หลวงพ่อเปิ่น (ลงพื้นที่ตนเอง)
- ทีมเภสัชกร อาสา อ.สุนี มข. ช่วยจ่ายยา
- ทีม สสจ. นครสวรรค์
- สมาคม / สภาเทคนิคการแพทย์
- ทีม รพ. หนองม่วงไข่ จ.แพร่ (มี 3 ท่าน)
- ทีม รพ. ลำลูกกา จ.ปทุมธานี (ลงพื้นที่ตนเอง)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง