ข่าว

"เฟคนิวส์" ว่อน "กองทัพบก" แจ้งจับขบวนการปล่อย "ข่าวเท็จ" กุเรื่องรัฐประหาร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"เฟคนิวส์" ว่อน "กองทัพบก" แจ้งจับขบวนการปล่อย "ข่าวเท็จ" กุเรื่องรัฐประหาร และนำกำลังควบคุมบุคคลสำคัญ

พลโท สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษก"กองทัพบก" เปิดเผยว่า กองทัพบก ได้ตรวจสอบพบว่า มีการปล่อยข่าวปลอม "เฟคนิวส์" ลงเผยแพร่ลงในโซเซียลมีเดีย โดยมีการอ้างว่า ผู้บัญชาการทหารบก ได้ทําการรัฐประหาร และนํากําลังทหารเข้าควบคุมบุคคลสําคัญแล้ว ซึ่งเรื่องนี้เป็น "ข่าวเท็จ" เป็นการสร้างเรื่องหวังให้เกิดความวุ่นวายในสังคม 

 

"เฟคนิวส์" ว่อน "กองทัพบก" แจ้งจับขบวนการปล่อย "ข่าวเท็จ" กุเรื่องรัฐประหาร

"เฟคนิวส์" "กองทัพบก" "ข่าวเท็จ"

 

 

 

ทั้งนี้ การกระทำสร้างข่าวปลอม "เฟคนิวส์" หรือสร้าง "ข่าวเท็จ" ถือว่าเป็นการกระทําที่ผิดกฎหมาย ทําลายชื่อเสียงของกองทัพและรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้มอบหมายให้ ผู้อํานวยการสํานักงานพระธรรมนูญทหารบก เข้าดําเนินการแจ้งความร้องทุกข์ ต่อเจ้าหน้าที่ตํารวจ เพื่อดําเนินการตามกฎหมาย กับผู้ที่ปล่อยข่าวเท็จดังกล่าวแล้ว

 

"เฟคนิวส์" ว่อน "กองทัพบก" แจ้งจับขบวนการปล่อย "ข่าวเท็จ" กุเรื่องรัฐประหาร
"เฟคนิวส์" "กองทัพบก" "ข่าวเท็จ"
 

     
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ค.2564 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 29) 

 

โดยสาระสำคัญ ระบุว่า โดยที่มีการเผยแพร่โดยทั่วไปซึ่งข้อความอันเป็นเท็จที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดหรือสับสน ปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง จนเกิดความเสียหายหรือเหตุการณ์ร้ายแรงมากขึ้นในสถานการณ์ฉุกเฉิน จนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ

 

การละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น การรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือการรักษาสุขภาพของประชาชนโดยผ่านทางสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะอินเทอร์เน็ต อันเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ฉุกเฉินให้วิกฤตยิ่งขึ้น จำเป็นต้องมีมาตรการที่กำหนดให้การใช้สิทธิหรือเสรีภาพในการแสดงออกเป็นไปอย่างมีเหตุผล ถูกต้องตรงตามข้อเท็จจริงและมีความรับผิดชอบต่อความสงบสุขของสังคมส่วนรวมในสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ตามกรอบที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยกำหนด

 

 

 

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 นายกรัฐมนตรีออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้


ข้อ 1 ห้ามผู้ใดเสนอข่าว จำหน่าย หรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใดที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉินจนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ในเขตพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน


ข้อ 2 ในกรณีมีการเผยแพร่ข้อความหรือข่าวสารตามข้อ 1 ในอินเทอร์เน็ต ให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) แจ้งผู้รับใบอนุญาตการให้บริการอินเทอร์เน็ตตามกฎหมาย ว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจำยเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ทุกรายทราบ

 

และให้ผู้รับใบอนุญาตดังกล่าวทุกรายมีหน้าที่ตรวจสอบว่า ข้อความหรือข่าวสารดังกล่าวมีที่มาจากเลขที่อยู่ไอพี (IP address) ใด หากเป็นเลขที่อยู่ไอพี (IP address) ที่ตนเป็นผู้ให้บริการ ให้แจ้งรายละเอียดตำมที่สำนักงาน กสทช.กำหนดให้สำนักงำน กสทช. ทราบ และให้ระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่เลขที่อยู่ไอพี (IP address) นั้นทันที


ให้สำนักงำน กสทช. ส่งรายละเอียดตามที่ได้รับแจ้งตามวรรคหนึ่งให้แก่สำนักงำนตำรวจแห่งชาติโดยเร็วเพื่อดำเนินคดีต่อไป

 

ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดไม่ปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตการให้บริการอินเทอร์เน็ต และให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป


 

"เฟคนิวส์" "กองทัพบก" "ข่าวเท็จ"

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ