"อาบน้ำ" อุ่น หรือ น้ำเย็น มีดีต่างกันอย่างไร
"การอาบน้ำ" ถือว่าเป็นกิจวัตรประจำวันที่หลายคนให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะนับว่าเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่สดชื่น และ ก่อนเข้านอน เพื่อจะได้นอนหลับอย่างสบายตัว ยิ่งช่วงนี้สถานการณ์โควิด -19 สิ่งแรกเมื่อกลับเข้าบ้าน ควรจะรีบอาบน้ำก่อนเป็นลำดับแรก การอาบน้ำไม่เพียงแต่การชำระร่างกายให้สะอาดจากสิ่งสกปรกที่เราต้องเจอกันมาตลอดวันเท่านั้น อุณหภูมิของน้ำก็มีส่วนสำคัญต่อผิว และสุขภาพของเราด้วย ดังนั้นเราจึงไม่ควรละเลย วันนี้เราจะมาดูกันว่า การอาบน้ำด้วยอุณหภูมิต่างกันจะให้ผลดี ผลเสียต่อผิวอย่างไร
การอาบน้ำอุ่น
การอาบน้ำอุ่น ที่ได้ผลดีต่อผิว อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 27-37 องศาเซลเซียส จะช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ลดอาการมือเท้า เย็น เส้นเลือดขอด ผ่อนคลายอาการตึงหรืออาการล้าของกล้ามเนื้อ และช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกหรือคราบมันต่าง ๆ ภายในรูขุมขนได้ดี รวมถึงยังมีงานศึกษาบางชิ้นพบว่าการอาบน้ำอุ่นอาจช่วยให้นอนหลับได้ไวและมีคุณภาพการนอนที่ดีขึ้น
แต่ต้องระวัง การอาบน้ำที่มีอุณหภูมิสูงเกินไปเป็นเวลานานอาจส่งผลเสียบางอย่างต่อร่างกาย เช่น ผิวแห้ง ผิวขาดความชุ่มชื้น เกิดอาการคันผิวหนัง อุณหภูมิของน้ำที่สูงจนเกินไปอาจส่งผลให้อาการทางผิวหนังบางชนิดแย่ลง เช่น โรคผื่นผิวหนังอักเสบ หรือลมพิษ
นอกจากนี้แล้ว ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง หรือเป็นโรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด การอาบน้ำที่อุณหภูมิสูงจนเกินไปอาจส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำที่ร้อนจนเกินไป
อาบน้ำเย็น
สำหรับใครที่ชอบการอาบน้ำเย็น อาจจะเป็นเรื่องที่ยากจะทำใจยิ่งในช่วงฤดูหนาวแล้วหลายคนเลือกที่จะไม่อาบน้ำในช่วงเช้า แต่รู้หรือไม่ว่า การอาบน้ำเย็น ช่วยทำให้กล้ามเนื้อตื่นตัวเนื่องจากเลือดจะมาเลี้ยงผิวหนังได้มากขึ้น และเมื่อกล้ามเนื้อตื่นตัวก็ทำให้รู้สึกสดชื่น ขณะเดียวกันในต่างประเทศ มีงานวิจัยพบว่าการอาบน้ำเย็นช่วยลดความรู้สึกซึมเศร้า อาการหดหู่ได้ด้วย ที่สำคัญหลังจากอาบน้ำเย็น แล้วควรทาครีมบำรุงผิวเพื่อป้องกันผิวแห้งแตกด้วย
สำหรับ เคล็ดลับการอาบน้ำ เพื่อสุขภาพที่ดี
- ช่วงเช้า เราควรเลือกอาบน้ำเย็น เพื่อให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ตื่นตัว
- ส่วนช่วงกลางคืน การอาบน้ำอุ่น จะช่วยให้เราคลายความเครียดที่สะสมมาตลอดทั้งวัน และช่วยให้นอนหลับได้ดีอีกด้วย
- ควรเริ่มปรับอุณหภูมิร่างกายก่อน ด้วยการรดน้ำจากปลายเท้าขึ้นมาบริเวณลำตัว วิธีการนี้จะช่วยป้องกันการช็อกระหว่างอาบน้ำ
- สำหรับผู้ที่ออกกำลังกาย ไม่ควรรีบอาบน้ำทันที ควรรอประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนอาบน้ำ
- และหลังทานอาหารไม่ควรอาบน้ำทันที ควรรอไม่ต่ำกว่า 1-2 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้อาหารไม่ย่อย
อ้างอิง โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาการุณย์
ขอบคุณภาพ https://www.pexels.com/th-th/
ข่าวที่เกี่ยวข้อง