พบทุจริต"จองคิวฉีดวัคซีน" สถานีกลางบางซื่อ นำโควตาไปขายสิทธิต่อ แจ้งความดำเนินคดีแล้ว

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก พ.ญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เกิดกรณีการทุจริตการจองคิว เพื่อขอเข้ารับวัคซีน เบื้องต้นพบว่า น่าจะเป็นการแฮ็กระบบของบริษัทเครือข่ายมือถือแห่งหนึ่ง เพื่อนำโควตาวัคซีนไปขายสิทธิต่อ โดยมีการจ่ายค่าหัวรายละ 500 – 1,000 บาท แต่เนื่องจากบริษัทมีระบบการตรวจสอบที่เข้มงวด จึงสามารถตรวจสอบพบความผิดปกติ 

ขณะนี้ ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้วเรียบร้อย หากสอบสวนแล้วพบว่า ทำผิดจริง มีโทษจำคุก 3-10 ปี และขณะนี้กำลังสอบเพิ่มเติมว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐ ร่วมรู้เห็นหรือไม่ หากมีจะต้องรับโทษตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญาด้วย

สำหรับประชาชนผู้ที่ซื้อสิทธิมารับวัคซีน กรณีที่ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูล และหลักฐานการโอนเงินการติดต่อกับตัวกลาง หรือผู้กระทำผิด เจ้าหน้าที่จะกันไว้เป็นพยาน แต่หากไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ จะถือว่าเป็นผู้กระทำผิดตามกฎหมาย และจะไม่ได้รับการจัดสรรฉีดวัคซีน

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ขอให้ประชาชนทำตามระบบ อย่าหลงเชื่อผู้ที่นำสิทธิต่าง ๆ มาเสนอขายให้ เพราะบริษัทเครือข่ายมือถือที่เข้ามาร่วมให้บริการลงทะเบียน มีระบบการตรวจสอบที่เข้มงวด เมื่อถูกตรวจสอบได้จะต้องถูกตัดสิทธิ เพื่อไปเข้าระบบที่ถูกต้องใหม่อีกครั้ง จะทำให้เสียทั้งเงิน เสียเวลา และอาจตกเป็นผู้กระทำผิดกฎหมาย แต่หากเข้าตามระบบ ทุกคนจะได้รับวัคซีนตามการจัดกลุ่มลำดับความเสี่ยงอย่างแน่นอน
 

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงการจัดระเบียบภายในศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีข้อสั่งการให้เสริมการจัดระเบียบการให้บริการ เพิ่มมาตรการเว้นระยะห่าง ลดความแออัด สำหรับประชาชนที่เข้ารับวัคซีน วันนี้กระทรวงคมนาคม ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจัดระเบียบพื้นที่เพื่อลดความแออัดลง

อย่างไรก็ตาม  ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2564 เป็นต้นไป สถานการณ์ความแออัดของผู้เข้ารับวัคซีนจะดีขึ้น เนื่องจากจะเริ่มใช้ระบบนัดหมาย โดยผู้ที่จะเดินทางมารับวัคซีนจะมีวัน เวลานัดที่ชัดเจน มีการย้ำเรื่องการไม่มาก่อนเวลา เพื่อลดการรวมตัวของประชาชน

.