ข่าว

กิน "กล้วยดิบ" ช่วยเรื่องโรคกรดไหลย้อนได้จริงหรือ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โรคกรดไหลย้อน เป็นอย่างไร กิน "กล้วยดิบ" ช่วยได้จริงหรือ แนะ 7 พฤติกรรมควรปรับการบริโภค - ดำเนินชีวิต

ตามข้อมูลในงานสาธารณสุขมูลฐาน ผลกล้วยน้ำว้าดิบ หรือผลกล้วยน้ำว้าดิบที่ฝานบาง ๆ แล้วตากแห้ง ในทางยา เพื่อบรรเทาอาการท้องเสีย อาการปวดท้องจุกเสียด โดยนำ "กล้วยดิบ" หั่นบาง ๆ ตากแดดให้แห้ง และบดให้ละเอียดเป็นแป้ง ปริมาณ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ

กล้วยดิบ มีสารสำคัญ ได้แก่ Tannin (สารแทนนิน) และ Sitoindoside (สารซิโตอินโดไซส์) ซึ่งมีผลช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อน โดยสารแทนนินมีฤทธิ์ฝาดสมานใช้แก้อาการท้องเสียได้ สารซิโตอินโดไซส์ และ Leucocyanidins (สารลิวโคไซยานิดินส์) มีฤทธิ์ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร

แต่เนื่องจากสารออกฤทธิ์ Sitoindoside เป็นกลุ่มสเตียรอยด์ การใช้ในระยะยาวจึงต้องระมัดระวังเรื่องผลข้างเคียง เพราะยังไม่มีการศึกษาพิษแบบเรื้อรังของสารกลุ่มนี้

 

 

โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease: GERD)

  • คือ ภาวะที่มีน้ำย่อยในกระเพาะอาหารซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดไหลย้อนขึ้นไปในลำคอ ทำให้มีอาการระคายเคืองบริเวณลำคอ แสบอกจุกเสียดลิ้นปี่ รวมทั้งอาจมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อร่วมด้วย

ทั้งนี้ หากมีอาการของโรคกรดไหลย้อน ควรปรับพฤติกรรมในการบริโภคและพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต เช่น

  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
  • หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา ชา กาแฟ น้ำผลไม้
  • หลีกเลี่ยงอาหารเปรี้ยวจัด อหารมัน อาหารรสเผ็ด
  • ควบคุมน้ำหนัก ในแต่ละมื้ออาหารไม่รับประทานอาหารในปริมาณมากไป
  • ไม่ควรนอนทันทีหลังจากรับประทานอาหาร ควรเว้นระยะอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
  • ไม่สวมเสื้อผ้ารัดเกินไป
  • พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ

 

หากอาการไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิฉัยและรักษา และหากต้องการใช้ "กล้วยดิบ" หรือใช้ยาในการบรรเทาอาการ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ