
"โฆษกทัพเรือ" วอน หยุดจับแพะชนแกะ โยงจัดหายุทโธปกรณ์ สร้างความแตกแยก
โฆษกกองทัพเรือ ย้ำการจัดหายุทโธปกรณ์ทางทหาร กองทัพเรือ การพิจารณาอย่างเปิดเผย ตามยุทธศาสตร์ป้องกันอธิปไตยทางทะเล 2 ฝั่ง วอนอย่านำไปสร้างความเข้าใจผิด และสร้างความแตกแยกในสังคม
พลเรือเอก เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงถึงแนวทางการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือ ที่ปรากฏรายการต่างๆ ตามการพิจารณางบประมาณอยู่ในขณะนี้ ว่า รายการต่างๆ ได้ผ่านกระบวนการพิจารณาโดยละเอียด อย่างถูกต้อง เปิดเผย และเป็นไปตามแนวคิดที่มีความจำเป็นตามยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ ในการป้องกันประเทศและอธิปไตยทางทะเล การรักษาความมั่นคง และผลประโยชน์ของชาติทางทะเลของไทย
ซึ่งกองทัพเรือ ต้องรับผิดชอบพื้นที่สองฝั่งทะเล อาณาเขตทางทะเลประมาณ 323,388.32 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 60 ของอาณาเขตทางบก ที่มีเนื้อที่อยู่ประมาณ 513,115 ตารางกิโลเมตร ซึ่งต้องจัดกำลังทางเรือและอากาศยาน ปฏิบัติการในพื้นที่รับผิดชอบตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ไม่มีวันหยุด เพื่อลาดตระเวนเฝ้าตรวจ รวมทั้งช่วยเหลือประชาชนในทะเลและเกาะแก่งต่างๆ ทั้งฝั่งอ่าวไทย และฝั่งอันดามัน เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ในทะเล จะทำให้เรือและอากาศยานสามารถปฏิบัติการได้อย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ สถานภาพของเรือและอากาศยานของกองทัพเรือ ที่ต้องปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องในการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจในทะเล มีผลการเสื่อมสภาพและสึกหรอมากกว่าปกติ ซึ่งมีผลต่ออายุการใช้งานของยุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือ อีกทั้งเรือ และอากาศยาน ส่วนใหญ่ก็มีอายุการใช้งานเกินเกณฑ์กำหนด รวมทั้งงบประมาณด้านปฏิบัติการของเรือรบและอากาศยาน ซึ่งมีนักบินที่ได้รับแต่ละปีมีจำนวนจำกัด จึงส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติการโดยตรง
ซึ่งการใช้อากาศยานไร้คนขับ (UAV) สามารถสนับสนุนการลาดตระเวนตรวจการณ์ของเรือรบ และอากาศยานที่มีนักบิน ทั้งด้านอ่าวไทย และทะเลอันดามัน เข้าถึงพื้นที่ปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็ว และสามารถปฏิบัติการบนอากาศได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น และช่วยประหยัดงบประมาณ
รวมทั้งยังเป็นการใช้บุคลากรที่เป็นนักบิน ช่างเครื่อง และสิ่งอำนวยความสะดวกน้อยกว่าอากาศยานที่ใช้นักบิน อันเป็นการลดความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ได้ ดังนั้นทุกรายการที่เสนอไปมีเหตุผลที่เหมาะสมรองรับการจัดหาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการระบาดของโควิด-19 ประเทศมีภาระด้านงบประมาณค่าใช้จ่ายที่จะต้องรับมือ กองทัพเรือจึงได้ขอเลื่อนโครงการจัดหาเรือดำน้ำลำที่ 2 และ 3 ออกไปก่อน แต่ในส่วนของยุทโธปกรณ์อื่นๆ ที่เหลือ ยังคงมีความจำเป็น เพราะเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการทำให้การปฏิบัติงานในทะเล เพื่อรักษาความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รวมทั้งผลกระทบต่ออธิปไตยของชาติทางทะเล มีประสิทธิภาพสูงสุด
ดังนั้น ขอให้ทุกฝ่าย อย่าได้นำการทำหน้าที่และความจำเป็นเหล่านี้ ไปสร้างความเข้าใจที่ผิด หรือสร้างความแตกแยกในสังคม เพราะความจำเป็นดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานที่ไม่กระทบต่อภาระจำเป็นที่มีอยู่ หากทุกฝ่ายได้พิจารณารายละเอียดด้วยเหตุและผล มีความเป็นธรรมจากจิตใจ