
สีผิวแบบไหน ไวต่อแสง เลือกใช้ "ครีมกันแดด" ให้ถูกต้อง
เพราะแสง UVA และ UAB ล้วนอันตรายทั้งคู่ UVA ทำให้เกิดผิวคล้ำ ริ้วรอย ผิวเหี่ยวย่น ส่วน UVB ทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง ผิวหนังแดง และไหม้ หลายคนใช้ "ครีมกันแดด" เป็นประจำอยู่แล้ว แต่รู้หรือไม่ เราควรเลือกใช้ครีมกันแดด ให้ตรงกับ "สีผิว" ด้วย
เป็นที่ทราบกันดีว่า "ครีมกันแดด" จะช่วยปกป้องโรคมะเร็งผิวหนัง,ชะลอริ้วรอยเหี่ยวย่น ผิวหนังไหม้แดด รวมทั้ง ฝ้า กระ จุดด่างดำที่เราไม่ต้องการ แต่รู้หรือไม่ว่า คนที่มีสีผิวต่างกัน เราก็ควรเลือกใช้ครีมกันแดดให้ตรงกับสีผิวของตัวเอง ถึงจะดีที่สุด
มีข้อมูลเชิงวิจัยพบว่า คนที่มีผิวสีเหลือง ผิวเข้ม อย่างชาวเอเชียผิว จะสามารถป้องกันแสงแดดได้ดีกว่าคนผิวขาว อย่างชาวยุโรป เพราะเม็ดสี "เมลานิน" ทำหน้าที่เป็นเสมือนเกราะป้องกันแสงแดดโดยธรรมชาติ
แล้วคนมีสีผิวแบบไหน ควรใช้ครีมกันแดดแตกต่างกันอย่างไร
ก่อนอื่น ต้องมารู้ค่าที่ใช้วัดการป้องกันแสงแดด และรังสีต่าง ๆ กันก่อน เผื่อเห็นสลากข้างหลอดหรือขวดบรรจุภัณฑ์ จะได้เข้าใจง่ายขึ้น
PA (Protection Grade of UVA) ค่าที่ใช้วัดการป้องกันรังสี UVA มี 3 ระดับ
PA+ มีประสิทธิภาพในการป้องกัน UVA ปานกลาง (2 เท่า)
PA++ มีประสิทธิภาพในการป้องกัน UVA สูง (4 เท่า)
PA+++ มีประสิทธิภาพในการป้องกัน UVA สูงสุด (8 เท่า)
SPF (Sunburn Protection Factor) ค่า “ความยาวนาน” ในการป้องกัน UVB ค่า SPF ยิ่งสูงยิ่งป้องแดดได้นานตามสภาพผิว
ค่า SPF 15 ผิวขาวซีด ผิวขาวอมชมพู ผิวขาวอมเหลือง ประมาณ 1 ชั่วโมง ผิวสองสี ประมาณ 4 ชั่วโมง
ค่า SPF 30 ผิวขาวซีด ผิวขาวอมชมพู ผิวขาวอมเหลือง ประมาณ 2 ชั่วโมง ผิวสองสี ประมาณ 7 ชั่วโมง
ค่า SPF 60 ผิวขาวซีด ผิวขาวอมชมพู ผิวขาวอมเหลือง ประมาณ 5 ชั่วโมง ผิวสองสี ประมาณ 15 ชั่วโมง
SPF 30 กับ 60 ประสิทธิภาพในการป้องกันแดด ต่างกันเพียง 1% เท่านั้น จะแตกต่างกันที่ความยาวนานในการป้องกันแสงแดดตามที่กล่าวข้างต้น
ทั้งนี้ แต่ละคนอาจเกิดอาการแพ้ครีมกันแดดได้ ซึ่งมีสาเหตุจาก สารกันแดด (Active Ingredient) น้ำหอม สี กลิ่น เป็นต้น