ข่าว

"8 พฤติกรรม" เร่ง"หูเสื่อม"ก่อนวัย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เรามักเคยได้ยินอยู่บ่อย ๆ ว่าเมื่อสูงวัย"หู"จะตึง ได้ยินอะไรไม่ค่อยชัด แต่ด้วย"พฤติกรรม"การใช้ชีวิตในปัจจุบัน พบว่ามีผู้ป่วยที่มีภาวะประสาท"หูเสื่อม"ก่อนวัยมากขึ้น มาเช็กกันหน่อยว่า..ใช่สิ่งที่คุณทำอยู่หรือเปล่า

 

"8 พฤติกรรม"ที่ทำให้"หูเสื่อม"เร็ว

 

1.ชอบใช้"หูฟัง"...เปิดเพลงเสียงดังลั่น

เวลาไปไหนมาไหนคนเดียวก็ต้องใส่"หูฟัง"เพื่อเปิดเพลงฟังแก้เหงา บางทีก็ชอบเพ้อชอบบิ้วท์อารมณ์ตามคอนเซ็ปต์ด้วยการเปิดเพลงดังๆ เกิน 80 เดซิเบล จนกำแพงบ้านสั่นสะเทือนซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้ประสาท"หู"ของคุณเสื่อมก่อนวัยอันควร

 

2.แคะ"หู"บ่อย...เพราะคิดว่าดี

ตอนเช้าก็แคะ ก่อนนอนก็แคะเพราะเข้าใจว่า “ขี้หู”ที่มีนั้นเป็นสิ่งสกปรกต้องแคะออก ทั้งที่จริงๆแล้ว"ขี้หู"มีหน้าที่ในการป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้า"หู" ไม่ว่าจะแมลง ผง หรือฝุ่น ละอองต่างๆ รวมทั้งคอยทำลายเชื้อแบคทีเรียหากเราแคะ"ขี้หู"ออกไปจนหมด...ก็จะขาดเกราะในการป้องกัน"หู"จากอันตราย

 

3. การ"ดำน้ำ"

กิจกรรมผ่อนคลายอย่างการ"ดำน้ำ"อาจไม่ใช่กิจกรรมที่ดีต่อประสาทหูเท่าไหร่เพราะเมื่อเราต้องดำลงไปใต้น้ำ แรงกดดันใต้น้ำจะก่อให้เกิดการบีบอัดต่อศีรษะและอวัยวะในช่องหูและหากไม่สามารถปรับความดันระหว่างการดำน้ำได้ อาจส่งผลให้เกิดอาการ Barotruama หรืออาการปวดหูที่เกิดจากความดันที่ไม่สมดุล

 

การดำน้ำทำให้ออกซิเจนและเลือดไปเลี้ยงหูชั้นในน้อยลงซึ่งในหูชั้นในจะมีอวัยวะเกี่ยวกับการทรงตัวอยู่ เมื่อเลือดหรือออกซิเจนไปเลี้ยงไม่พอ อวัยวะเหล่านั้นก็ทำงานได้น้อยลงหรือไม่ทำงานเลย 

 

4.ชอบเที่ยว...ในสถานที่ที่มีเสียงดัง

เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าสถานที่เที่ยวกลางคืน คือ สถานที่ที่มีระดับความดังของเสียงสูงหรือโดยประมาณ 100-120 เดซิเบล การอยู่ในสถานที่เสียงดังระดับนี้ แม้จะไม่กินระยะเวลานานถึง 8 ชั่วโมง แต่หากไปเที่ยวเป็นประจำติดต่อกันนานๆ อาจส่งผลให้ประสาทหูเสื่อมก่อนวัยได้

 

5.เสพติดการกิน “รสเค็ม”

ไม่เพียงแค่พฤติกรรมการฟังเสียงดังบ่อย ๆ เท่านั้น แต่พฤติกรรมการกินโดยเฉพาะ “กินเค็มจัด”เป็นประจำ ก็ทำให้ประสาท"หูเสื่อม"เร็วได้เพราะการกินเค็มสะสมเป็นเวลานาน ๆ ทำให้ท่อน้ำในหูชั้นในโป่งและแตก เกิดภาวะไม่เท่ากันของเกลือแร่หรือที่เรียกกันว่า “อาการน้ำในหูไม่เท่ากัน”นั่นเองเพราะประสาทหูเป็นสิ่งที่เปราะบาง

 

หากสังเกตว่าตนเองต้องเปิดทีวีเสียงดัง ๆ เพื่อให้ได้ยินเสียงชัดเจนหรือมักได้ยินเสียงดังในหู นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของความเสื่อมที่ต้องรีบรักษาก่อนกลายเป็น “ประสาทหูเสื่อมถาวร”

 

6. โทรศัพท์มือถือ

การใช้โทรศัพท์มือถือทำให้"หู"ผิดปกติได้เพราะเชื้อโรคในหูสามารถลุกลามจากความร้อนโดยปกติ"หู"คนเราจะมีเชื้อโรคอยู่บ้างแต่ก็มีขี้หูและผิวหนังที่ช่วยป้องกันไว้

 

แต่เมื่อ"หู"ได้รับความร้อนจากโทรศัพท์ประกอบกับการเขี่ยหรือเกาจนผิวหนังถลอกเท่ากับขาดปราการป้องกันเชื้อโรค เกิดอาการอักเสบ เป็นฝี หูบวมแดง คัน และอาจมีน้ำเหลืองไหล


7. พักผ่อนไม่เพียงพอ

การพักผ่อนน้อยส่งผลให้การไหลเวียนของกระแสเลือดไม่ดีโดยเฉพาะหูชั้นในที่ต้องการเลือดมาเลี้ยงมาก หากขาดเลือดจะทำให้น้ำในหูชั้นในเสียสมดุล ซึ่งน้ำในหูนี่เองที่เป็นตัวหล่อเลี้ยงเซลล์ประสาทที่ควบคุมการทรงตัว เมื่อน้ำในหูทั้งสองไม่เท่ากันจึงทำให้เกิดความผิดปกติของการทรงตัว


8. การใช้ยาบางชนิด

ยาปฏิชีวนะ เช่น ยาฆ่าเชื้อโรค ยาต้านเชื้อแบคทีเรีย มีผลทำให้เส้นประสาทหูเสื่อมและทำให้การได้ยินลดลงนอกจากนี้ยารักษาโรคบางชนิด เช่น ยารักษาวัณโรค ยารักษาเยื่อหุ้นสมอง ก็ส่งผลให้ประสาท"หูเสื่อม"เช่นกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

5 สารสกัดตัวช่วยให้ "ระบบไหลเวียนของเลือด" คืนสุขภาพให้สาววัย 30+

 

4 อาหาร กินบ่อย "กระดูกเสื่อม" เร็ว

 

"ลดความเครียด"ด้วยการกินกับเมนู14 ชนิด

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ