ผู้ต้องหา "กรอกยาล้างห้องน้ำคิดสั้นหนีความผิด" หลังก่อเหตุฆาตกรรมแม่ค้าของชำ ชิงทรัพย์และทิ้งศพในป่า จ.ขอนแก่น ด้าน "บิ๊กใหม่" รอง ผบ.ตร เร่งสอบปากคำแถลงความคืบ
จากกรณีนางกันนิกา จำปา อายุ 44 ปี ชาว จังหวัดขอนแก่น พกเงินแสนขับรถกระบะไปซื้อของ ก่อนจะหายตัวไป 2 วัน สุดท้ายพบเป็นศพถูกฆ่าชิงทรัพย์ ทิ้งในป่าข้ามอำเภอ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11ก.ค.2564 ที่ผ่านมา
ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า นายประสิทธิ์ จาลา อายุ 56 ปี หนึ่งให้ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีนี้ ได้หลบหนีไปยังจังหวัดตากและเปิดห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง จากนั้นได้ "กรอกยาล้างห้องน้ำคิดสั้นหนีความผิด" แต่เกิดเปลี่ยนใจตะเกียกตะกายลงมาจากห้องพักและขอความช่วยเหลือให้คนพาส่งโรงพยาบาล ขณะนี้ได้ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ตาก ท่ามกลางการดูแลของกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบอย่างใกล้ชิด หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะประสานรับตัวส่งดำเนินคดีที่ สภ.บ้านฝาง
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหา 6 ราย ที่เกี่ยวข้องในคดีฐานความผิดร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร ซึ่งผู้ต้องหาประกอบไปด้วย 1.นายทศพร แทนประเสริฐ อายุ 30 ปี 2.นายศุกล หนุนสุขศุภโชค อายุ 43 ปี 3.นายพนม อุ่นผาง อายุ 47 ปี 4.นายวรวิทย์ ชูแก้ว อายุ 34 ปี 5.นายศราวุธ คิ้วสูงเนิน อายุ 44 ปี 6.นายประสิทธิ์ จาลา อายุ 56 ปี
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นชุดสืบสวนร่วม บช.ภ.4,บช.ภ.2 และ กองปราบปราม ได้ประสานข้อมูลการทำงาน โดยหลังจากที่มีผู้มาพบศพผู้เสียชีวิตภายในป่าเขตพื้นที่ อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น จึงแกะรอยเริ่มจากทรัพย์สินของผู้ตายที่หายไปตามคำให้การของครอบครัว คือเงินสดประมาณ 100,000 บาท รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนท์ และโทรศัพท์มือถือ
จากนั้นได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด โดยพบว่ารถยนต์กระบะของผู้ตายนั้นได้วิ่งเข้ามาภายในซอยศรีจันทร์ 39 ซึ่งเป็นที่ตั้งบ้านของนายประสิทธิ์ หรือที่คนทั่วไปเรียกว่าสมชาย จากนั้นพบรถยนต์คันดังกล่าวซึ่งขับผ่านด่านตรวจนาโน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแกน เมื่อวันที่ 10 ก.ค.โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดของจุดตรวจสามารถบันทึกภาพได้อย่างชัดเจนชุดสืบสวนจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิด โดยพบว่ารถคันดังกล่าวหลังจากที่ผู้ตายขับเข้ามาภายในซอยศรีจันทร์ 39 ในวันที่ 9 ก.ค. แล้วนั้น จากนั้นก็มาพบอีกครั้งในจุดใกล้กับพบศพผู้ตาย และในช่วงเย็นวันเดียวกันนายประสิทธิ์จึงได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมาที่ร้านแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองขอนแก่น ก่อนที่นายพนม จะมาขับรถคันดังกล่าวไปจอดไว้ที่บริษัทอีกแห่งหนึ่ง จนกระทั่งวันที่ 11 ก.ค. นายพนม จึงได้พานายศราวุธ,นายวรวิทย์และนายทศพร มาดูรถและขับรถออกจากบริษัทฯแห่งหนี้ก่อนที่จะไปจอดรถเติมน้ำมันที่ อ.บ้านไผ่ และ ขับผ่านจุดตรวจนาโน ซึ่งล่าสุดพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวนี้นั้นได้ถูกส่งมอบให้กับนายเพียบ ชาว กัมพูชา ที่ จ.สระแก้ว เพื่อส่งขายในต่างประเทศตามแนวทางการสืบสวนที่พบว่ากลุ่มดังกล่าวนี้นั้นจัดอยู่ในแกงค์โจรกรรมรถยนต์ข้ามชาติราใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออก
รอง ผบ.ตร. กล่าวต่ออีกว่า นายประสิทธิ์ และ นายพนม นั้นเป็นเพื่อนสนิทกัน หลังจากที่นายประสิทธิ์ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์มาแล้วนั้น จึงมีการนำรถยนต์มาจอดทิ้งไว้และขายต่อให้กับกลุ่มขบวนการโจรกรรมรถยนต์รายใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยที่นายพนม มีหน้าที่มารับรถที่ชิงทรัพย์มาได้ขายต่อเป็นทอดๆ จนกระทั่งถึงปลายทางคือที่ประเทศกัมพูชา ดังนั้นแนวทางการสืบสวนสอบสวนจึงแกะรอยมาจากผู้ต้องหาทั้ง 5 คน จากากรนำรถไปขายต่อจนได้มีการสืบสนสอบสวนขยายผลได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตามแม้ในขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 6 คนที่ถูกจับตัวได้ จะถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร แต่หากนายประสิทธิ์ ผู้ต้องหารายสำคัญที่ "กรอกยาล้างห้องน้ำคิดสั้นหนีความผิด" ให้การได้และซัดทอดไปถึงใครก็จะดำเนินการตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพิ่มเติม รวมไปถึงการสืบสวนเส้นทางการเงินว่าเงินที่ได้จากการชิงทรัพย์นั้นโอนไปที่ใคร ทรัพย์สินที่ชิงทรัพย์ไปนั้นจำหน่ายหรือส่งต่อไปที่ใด ทั้งหมดจะต้องถูกจับกุมมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างไม่มีละเว้น ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านฝาง ได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดในชั้นพนักงานสอบสวนแล้ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง