
"มาตรการเร่งด่วน" รองโฆษกรัฐบาลย้ำแบงค์ชาติสั่งพักหนี้ 2 เดือนอุ้มSMEs
รองโฆษกรัฐบาล ย้ำ มาตรการเร่งด่วน "พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย" ให้แก่ ลูกหนี้ SMEs และรายย่อย เป็นระยะเวลา 2 เดือน ให้แก่ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 ระบุ 19 ก.ค.นี้รีบติดต่อแบงค์ด่วน
คืบหน้าหลังรัฐบาลประกาศมาตรการ “ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว” และคณัรัฐมนตรี(ครม.)มีมติคลอดมาตรการเยียวทุกกลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
ล่าสุดมีความคืบหน้า เกี่ยวกับการเยียวยาผ่านมาตรการเร่งด่วน ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย แล้ว โดยเมื่อวันที่ 15 กรกฏาคม 2564 นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงมาตรการเร่งด่วน พักหนี้ 2 เดือน ผู้ประกอบการรายย่อย ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว"กวาง ไตรศุลี ไตรสรณกุล" ใจความระบุว่า
มาตรการเร่งด่วน พักหนี้ 2 เดือน ผู้ประกอบการรายย่อย
แบงก์ชาติ สมาคมธนาคารไทย และสมาคมธนาคารนานาชาติ ร่วมกันที่จะออกมาตรการเร่งด่วน “พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย” ให้แก่ “ลูกหนี้ SMEs และรายย่อย” เป็นระยะเวลา 2 เดือน ให้แก่ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง
ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง คือ ลูกหนี้ทั้งที่เป็นนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการ ทั้งในพื้นที่ควบคุมฯ และนอกพื้นที่ควบคุมฯ ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ เริ่มตั้งแต่งวดการชำระหนี้เดือน ก.ค. 2564 เป็นต้นไป
โดยเมื่อหมดระยะเวลาพักชำระหนี้แล้ว สถาบันการเงินจะไม่เรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยที่ค้างอยู่ในทันที เพื่อไม่ให้เป็นภาระหนักกับลูกหนี้
การให้ความช่วยเหลือตามแนวทางข้างต้น ลูกหนี้สามารถติดต่อกับสถาบันการเงินเจ้าหนี้เพื่อแสดงความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือได้ตั้งแต่ วันที่ 19 ก.ค. 2564
ทั้งนี้ หากลูกหนี้สามารถให้ข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจนถึงผลกระทบของกิจการหรือการจ้างงาน จะทำให้การพิจารณาให้ความช่วยโดยเจ้าหนี้สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ การพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยภายใต้มาตรการนี้ เป็นเพียงการเลื่อนการชำระออกไป ลูกหนี้ที่ยังมีศักยภาพและสามารถชำระหนี้ได้ จึงควรชำระหนี้ต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ภาระหนี้ในอนาคตเพิ่มขึ้นสูงเกินจำเป็น เช่นเดียวกับลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินอยู่ก่อนหน้า ที่ควรดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและยั่งยืนกว่า
ขอให้ลูกหนี้ที่ประสบปัญหารีบติดต่อผู้ให้บริการทางการเงินที่ใช้บริการอยู่เพื่อหาทางแก้ไขปัญหา และหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อผู้ให้บริการทางการเงินโดยตรง ที่ https://www.bot.or.th/.../PruReg_HB/Pages/CallCenter.aspx
หรือศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร. 1213
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3hFcTP5
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
นายกฯโพสต์ โชว์ "มาตรการเยียวยา"ใช้ 3 หมื่นล้าน ลั่นจะสู้จนกว่าเราจะชนะ
อภิมหาดีล ช่วย "ทักษิณ" กลับบ้าน
www.sso.go.th เช็กด่วน สิทธิรับ"เงินเยียวยาโควิด" ม.33 ม.39 ม.40 และ"อาชีพอิสระ"