ข่าว

เรียนรู้'ทอนซิล'อักเสบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หากใครเคยมีอาการเจ็บคอกลืนอะไรแทบไม่ได้ แค่กลืนน้ำลายยังรู้สึกทรมาน นั่นแสดงว่า"ต่อมทอนซิล"คุณอาจอักเสบ ดังนั้นการเรียนรู้ต้นเหตุของอาการ และหาวิธีป้องกัน จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพราะคงไม่ใครอยากกลับไปเป็นอีก


 ต่อมทอนซิล (Tonsils)คืออะไร อักเสบได้อย่างไร
     
 ต่อมทอนซิล (Tonsils)เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันคอยกำจัดเชื้อโรคในคอของเราไม่ให้เข้าสู่ระบบทางเดินอาหารของร่างกาย เป็นกลุ่มของเนื้อเยื่อชนิดลิมฟอยด์ประเภทต่อมน้ำเหลือง 

 

"ต่อมทอนซิล"พบได้หลายตำแหน่งในช่องปาก แต่เมื่อใดก็ตามที่เกิดความผิดปกติโดยการอักเสบของ"ทอนซิล"มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียโดยเฉพาะกลุ่ม Beta Streptococcus group A ทำให้มีไข้สูงและเจ็บคอ
กลายเป็นภาวะ"ต่อมทอนซิลอักเสบ"(Tonsillitis)

 

พบได้บ่อยทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เวลาตรวจในช่องปากจะพบ"ต่อมทอนซิล"บวมแดงมีขนาดใหญ่ขึ้นและมีเยื่อขาว ๆ ปกคลุม

 

อาการ

อาการในรายที่เป็นเฉียบพลันจะมีไข้สูงเกิดขึ้นทันทีทันใดและมีอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ครั่นเนื้อครั่นตัวหรือหนาวสะท้าน รู้สึกแห้งผากในลำคอหรืออาจเจ็บคอมาก บางรายอาจเจ็บคอมากจนกลืนน้ำและอาหารลำบาก

 

บางครั้งอาจสังเกตเห็นมีก้อนบวมและเจ็บที่ลำคอ(ก้อนลูกหนูหรือต่อมน้ำเหลืองอักเสบ)ที่บริเวณใต้คางข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง

 

ในเด็กเล็กอาจมีอาการอาเจียน ไอ ปวดท้องหรือท้องเดินร่วมด้วย บางรายมีไข้สูงจนชักหรือร้องกวนทำให้ไม่ยอมนอน
 

อาการในรายที่เป็นเรื้อรังจะมีอาการเจ็บคอบ่อย ๆ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ไอแห้ง ๆ หรือเสมหะเล็กน้อย มักไม่มีไข้ หรือบางครั้งอาจมีไข้ต่ำๆ

 

 "ต่อมทอนซิล"อักเสบรักษาอย่างไร
     
โดยปกติแพทย์รักษาตามอาการ เช่น ให้ยาบรรเทาอาการเจ็บคอ ยาลดน้ำมูกหรือลดไข้ ให้ยาแก้อักเสบเพื่อกำจัดเชื้อที่เป็นสาเหตุ ถ้าการอักเสบนั้นเกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือหากแพทย์พิจารณาว่ามีสาเหตุมาจากไวรัสก็จะให้ยารักษาตามอาการเท่านั้นเพราะยาต้านจุลชีพไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ 

 

นอกจากนี้ผู้ป่วยควรดื่มน้ำมาก ๆ เนื่องจากผู้ป่วยเจ็บคอมากมักจะดื่มน้ำค่อนข้างน้อย พักผ่อนให้เต็มที่ รับประทานอาหารอ่อนๆ เช่น โจ๊ก หรือข้าวต้มที่ไม่ร้อนจนเกินไป หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเผ็ด หรือรสจัด หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และหลีกเลี่ยงการใช้เสียงชั่วคราว ในกรณีที่อาการรุนแรงอาจต้องนอนพักในโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือและยาต้านจุลชีพทางหลอดเลือดดำ 

 

หาก"เจ็บคอ"มากจนรับประทานอาหารไม่ได้ร่วมกับมีไข้สูงและไม่ได้รับการรักษา อาจมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นจากการอักเสบของ"ต่อมทอนซิล"ที่อาจจะกระจายกว้างออกไปจนเกิดเป็นหนองและลุกลามผ่านช่องคอเข้าสู่ปอดและหัวใจได้


หาก"ต่อมทอนซิล"อักเสบบ่อยๆ อันตรายหรือไม่
   
หากเกิดภาวะ"ต่อมทอนซิล"อักเสบอยู่บ่อย ๆ "ต่อมทอนซิล"จะโตขึ้นแล้วเปลี่ยนสภาพเป็นแบบเรื้อรังและอาจมีการอักเสบอย่างเฉียบพลันเป็น ๆ หายๆ ได้

 

การที่"ต่อมทอนซิล"โตจะทำให้เกิดร่องหรือซอกซึ่งเศษอาหารอาจเข้าไปตกค้างอยู่ได้ ทำให้เกิดการอักเสบยืดเยื้อออกไปและอาจจบลงด้วยการผ่าตัด


การผ่าตัดเอา"ต่อมทอนซิล"ออกจำเป็นแค่ไหนมีผลข้างเคียงหรือไม่
           

โดยทั่วไปขั้นตอนการผ่าตัด"ต่อมทอนซิล"ไม่ยุ่งยาก สามารถทำได้ทั้งแบบยาชาเฉพาะที่หรือดมยาสลบใช้เวลาพักฟื้นที่บ้าน 4-5 วันก็สามารถทำงานได้ตามปกติ สามารถมั่นใจได้ว่าไม่มีผลข้างเคียงที่จะทำให้เสียงขาดหายเนื่องจากไม่ได้ทำการผ่าตัดที่บริเวณกล่องเสียง

 

การผ่าตัด"ต่อมทอนซิล"ออกนั้นเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อซึ่งช่วยลดการอักเสบและไม่มีข้อเสียแต่อย่างใด โดยการผ่าตัดแพทย์จะพิจารณาจากระยะเวลาอักเสบ เช่น มากกว่าปีละ 2-3 ครั้งหรือการอักเสบแต่ละครั้งมีอาการรุนแรงมากเพียงใด,ผู้ป่วยมีภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจจาก"ต่อมทอนซิล"มีขนาดใหญ่หรือผู้ที่เป็นพาหะนำเชื้อโรคคอตีบ(Diptheria)

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ