"ปธ.ก.อ."ขีดเส้นตายสอบ"เนตร นาคสุข" ให้เสร็จเดือนนี้ เดินหน้าสอบ"อัยการ ช."เปลี่ยนความเร็วรถร่วมกับ ป.ป.ช. ส่วน"ปรเมศวร์"โดนวินัย แค่ว่ากล่าวตักเตือน ประพฤติไม่เหมาะสม"เมาแล้วขับ"ก่อนพิจารณาเสนอโปรดเกล้าฯ
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 14 ก.ค.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนเเจ้งวัฒนะ นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ(ก.อ.)เป็นประธานการประชุม ก.อ.ครั้งที่ 7/2564
โดยมีวาระน่าสนใจเกี่ยวกับผลการสอบสวนวินัยนายเนตร นาคสุข อดีตรอง อสส.กรณีสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหาคดีขับรถยนต์หรูชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ สังกัด สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าตรู่วันที่ 3 ก.ย. 2555
โดยภายหลังการประชุมเมื่อเวลา 16.00 น.นายพชร ประธาน ก.อ.เปิดเผยว่า ที่ผ่านนายเนตรได้มาให้ความร่วมมือในการสอบสวนโดยให้ถ้อยคำกับกรรมการสอบสวสชุดนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ กับคณะ
ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับรายงานการสอบสวนของอัยการสูงสุด 2 สำนวนที่ได้รับมอบมาจากคณะทำงานที่ได้กลับความเห็นเป็นสั่งฟ้องนายวรยุทธใหม่อีกครั้งกับสำนวนที่ได้มีการสอบนายเนตร เบื้องต้นที่ได้มีการพิจารณาไว้เเล้ว
ส่วนหลักฐานพยานอื่นๆนายกายสิทธิ์ก็ได้รวบรวมใกล้เสร็จเเล้วโดยจะมีการขยายผลไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องที่มีการอ้างว่าเป็นอัยการคนหนึ่งดังกล่าวเพื่อจะได้มีการสอดคล้องกับการสอบสวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่ระบุว่ามีการตั้งเรื่องเเต่การสอบนายเนตรกับอัยการอีกคนหนึ่งอาจจะต้องเเยกสอบเพราะเรื่องนายเนตรเป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ในการสั่งคดีว่า สั่งคดีเป็นไปตามอำนาจหน้าที่เเละสั่งคดีโดยชอบหรือไม่
ส่วนอัยการอีกคนเป็นเรื่องการกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ของอัยการอย่างเรื่องการเปลี่ยนเเปลงความเร็วรถ ก็จะต้องไปสอบสวนร่วมกับบุคคลอื่นด้วยบทลงโทษก็จะเเตกต่างกันเป็นคนละส่วนเพราะถ้าไม่เเยกการสอบสวนนายเนตรก็จะไม่เสร็จสิ้นเสียที
เเต่พยายามกำชับนายกายสิทธิ์เรื่องการสอบอัยการที่มีส่วนเปลี่ยนลงความเร็วให้ร่วมมือกับ ปปช.เพื่อให้ผลสอบรัดกุมมากขึ้น ในส่วนของนายเนตรอาจจะต้องสรุปผลสอบออกมาก่อนโดยตนให้เวลาภายในวันที่ 31 ก.ค.นี้ ส่วนอัยการอีกคนก็ให้สอบโดยเร็วซึ่งนายกายสิทธิ์เองก็ไม่ได้รู้สึกหนักใจ
เมื่อถามถึงกรณีนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานอาญาธนบุรี ที่ได้ถูกศาลพิพากษาความผิดเมาแล้วขับ นายพชร กล่าวว่า วันนี้ก็มีการพิจารณากันเรื่องนี้ซึ่งทาง อสส.ได้เสนอต่อที่ประชุมว่าเป็นความผิดที่ไม่ร้ายแรง
แต่เนื่องจากนายปรเมศวร์ เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่การที่เมาแล้วขับเป็นสิ่งที่ไม่ควรประพฤติอย่างยิ่ง จึงให้จัดทำบันทึกเพื่อว่ากล่าวตักเตือนและกำชับไม่ให้ปฏิบัติตัวลักษณะดังกล่าวและประพฤติตามคำสั่งศาลพิพากษาลงโทษ ไม่ว่าจะเป็นการรอลงอาญาหรือการรายงานตัว การบำเพ็ญประโยชน์อย่างเคร่งครัด
ส่วนเรื่องการพิจารณาตำแหน่งก็ยังดำเนินการตามปกติเนื่องจากพิจารณาแล้วว่าเหตุเมาแล้วขับนั้นไม่ได้เป็นพฤติกรรมที่เสื่อมเสียร้ายแรงเจตนาทุจริต
อีกทั้งทางอัยการสูงสุด(อสส.) ได้ว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร ก็เห็นควรเสนอบัญชีรายชื่อเพื่อพิจารณาโปรดเกล้าฯตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้จะมีการนัดประชุม ก.อ.ครั้งต่อไปวันที่ 18 ส.ค.นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง