"เที่ยวทิพย์" ย่าน "กัมปง เกอลัม" วัฒนธรรมเก่าแก่ สิงคโปร์

สมรภูมิโควิด-19 ที่สังคมโลกกำลังต่อสู้กันอยู่ ยังไม่รู้จะจบลงเมื่อไหร่ ทำให้ผู้ที่หลงใหลในการท่องเที่ยว ต้องเฉา และคิดถึงการออกท่องโลกกว้าง วันนี้ จะพาทุกคนไปเที่ยวทิพย์ กับสถานที่ท่องเที่ยว บ้านใกล้เรือนเคียง อย่างสิงคโปร์  อีกหนึ่งประเทศของอาเซียนที่ไปทีไรก็ไม่เบื่อ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ ให้เราได้สัมผัสอยู่เสมอ 

 

 

เมื่อพูดถึงสิงคโปร์ สถานที่ท่องเที่ยวในสิงคโปร์ คนส่วนใหญ่จะนึกถึง อ่าวมารีนา เบย์ รูปปั้นเมอร์ไลอ้อนพ่นน้ำและตึกระฟ้า สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ ช้อปปิ้งต่อย่านออร์ชาร์ด หรือจะตระเวนกินที่ไชน่าทาวน์ เชื่อว่าหลายคนคงตระเวนไปทั่วหมดแล้ว  แต่ที่จริงแล้วสิงคโปร์ ยังมีสถานที่ ที่น่าค้นหาอีกมากมาย  ที่น่าสนใจและน่าค้นหาอีกหลายแห่ง โดยเฉพาะ“กัมปง เกอลัม(Kampong Gelam)” ย่านวัฒนธรรมหลากหลายเชื้อชาติ ที่มีประวัติศาสตร์อัขนยาวนานและมีความสำคัญในฐานะหนึ่งในรากเหง้าของสิงคโปร์จนถึงปัจจุบัน

คำว่า “กัมปง” เป็นภาษามลายู หมายถึง หมู่บ้าน ส่วนคำว่า “เกอลัม หรือ กลาม” หมายถึง ต้นเสม็ดขาวใบยาว ที่พบได้ทั่วไปในย่านนี้ในอดีต ที่นำมาใช้ในการต่อเรือ ทำยารักษาโรค และปรุงอาหาร กัมปง เกอลัม เดิมเป็นหมู่บ้านชาวประมงเนื่องจากตั้งอยู่ติดแม่น้ำโรชอร์ (Rochor River)ต่อมาในปี ค.ศ. 1820 ซึ่งเป็นยุคแรกของการก่อตั้งอาณานิคมสิงคโปร์ เซอร์สแตมฟอร์ด ราฟเฟิลส์(Sir Stamford Raffles)ได้จัดสรรพื้นที่นี้ให้กับชุมชนชาวมาเลย์ อาหรับ และบูกิส และเป็นที่พำนักของสุลต่านฮุสเซน และพ่อค้าที่เดินทางมาจากตะวันออกไกล ชาวมุสลิมที่เดินทางมาถึงสิงคโปร์จะอาศัยอยู่ในบ้านพักขนาดใหญ่ร่วมกับคนที่เดินทางมาจากบ้านเกิดเดียวกัน โดยเรียกบ้านพักในลักษณะนี้ว่าปอนด๊ก (Pondok)และจะตั้งชื่อที่พักตามเมืองบ้านเกิด เช่น ปอนด๊กชวา (Pondok Java)นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการนำวัฒนธรรมของชาวมุสลิมจากหลากหลายเชื้อชาติเข้ามาสู่สิงคโปร์

โดมทองของมัสยิดสุลต่าน (Sultan Mosque หรือ Masjid Sultan)เป็นแลนด์มาร์คประจำย่านนี้ ตั้งอยู่บนถนนบัสซอระห์ (Bussorah Street)สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1824 เพื่ออุทิศแด่สุลต่านฮุสเซนชาห์ (Sultan Hussein Shah) สุลต่านองค์แรกของสิงคโปร์ แต่เดิมเป็นอาคารชั้นเดียวต่อมามีสภาพทรุดโทรมตามกาลเวลา จึงสร้างขึ้นใหม่ในปีค.ศ. 1932 ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นสามารถรองรับชาวมุสลิมได้ถึง 5,000 คน โดมทองที่รับแสงอาทิตย์แห่งนี้ เป็นจุดเด่นของสถาปัตยกรรมที่มีสีทองอร่ามขนาดใหญ่ ฐานของแต่ละโดมประดับด้วยแก้วก้นขวดที่บริจาคโดยมุสลิมผู้ยากไร้ในระหว่างการก่อสร้าง เพื่อให้ชาวมุสลิมทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของมัสยิด โดยมัสยิดแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติในปี ค.ศ. 1975 
 

ปัจจุบันกัมปง เกอลัมจึงถูกเรียกว่า "ย่านมุสลิม" ได้รับการบูรณะตกแต่งใหม่ และเติมชีวิตชีวาด้วยการดึงเอาสีสันในอดีตกลับคืนมา โดยเฉพาะตึกแถวที่ได้รับการอนุรักษ์ในบริเวณฮาจิเลน (Haji Lane)ถนนอาหรับ (Arab Street)ถนนแบกแดด (Baghdad Street)และถนนบัสซอระห์ (Bussorah Street)ได้มีการพัฒนากลายมาเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและศิลปะอันงดงามสำหรับนักเดินทางสมัยใหม่ ที่หลงใหลในการเรียนรู้และสัมผัสวัฒนธรรมอย่างใกล้ชิด

จบอาหารคาว มาต่อกันด้วยของหวาน จากร้าน ฮาบิบิ สวีท แอนด์ เซเวอรี(Habibi Sweet &Savoury) ที่ขึ้นชื่อเรื่องเบเกอรีตะวันออกกลางและอาหรับแฝงไปด้วยกลิ่นอายสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน โดยมีเมนูซิกเนเจอร์อย่าง บาคลาวา หรือขนมอบสอดไส้ถั่วและน้ำผึ้ง และมะอ์มูล หรือคุกกี้อาหรับที่ทำมาจากอินทผลัม ถั่ว และมะเดื่อ ทานคู่กับชาเอิร์ลเกรย์ ชาดาร์จีลิง หรือกาแฟ ลิ้มรสกลิ่นอายแบบอาหรับกันเลยทีเดียว

 

 

 

มาดูกันที่อาหารย่านกัมปง เกอลัม เป็นสิ่งที่ลืมไม่ได้ เพราะย่านนี้ เป็นแหล่งที่รวบรวมร้านอาหารจากหลากหลายเชื้อชาติทั้งมาเลย์ อินเดียและตะวันออกกลางมาไว้ด้วยกัน โดยมีร้านเด็ดอย่างร้าน HjhMaimunahNasi Padang หรือข้าวราดแกงแบบมาเลย์ ที่ได้รับรางวัลมิชลินบิบกูร์มองด์ รสชาติแบบอาหารมาเลย์ต้นตำรับ มีเมนูสุดคลาสสิกอย่าง ซัมบาล โกเร็ง ที่มีส่วนผสมของ เต้าหู้ทอด ถั่วแขก และน้ำพริก และ อะยัม บาการ์ หรือ ไก่ย่าง เสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อนๆ รับรองฟิน!!!  อีกร้านคือ ร้านซัม ซัม สิงคโปร์ (ZamZam Singapore)ร้านอาหารอินเดียนที่มีดีด้านโรตี โดยเฉพาะเมนูโรตีปราตา หรือโรตีแผ่นแบนสูตรอินเดียใต้  และมะตะบะ หรือถ้าใครชอบทานอาหารสไตล์เลบานอน จะลองไปที่ Beirut Grill ก็ได้

 

หนังท้องเริ่มตึง หนังตาต้องไม่หย่อน เติมพลังด้วยอาหารกันแล้ว เราไปลุยช้อปปิ้ง กันต่อเลย เพราะที่นี่มีร้านปรุงน้ำหอมที่เก่าแต่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1933 Sifr Aromatic ที่ยังสืบทอดศาสตร์การปรุงน้ำหอมอันเก่าแก่มาตั้งแต่รุ่นปู่ผู้บุกเบิกร้านปรุงน้ำหอมในสิงคโปร์ภายใต้แบรนด์คาซูรา(Kazura)โดยทายาทรุ่นที่สามโจฮาริ คาซูรา (Johari Kazura)ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ หลังจากที่ได้เรียนศาสตร์การปรุงน้ำหอมเพิ่มเติมจากฝรั่งเศส และเปิดร้านภายใต้แบรนด์ใหม่ ชื่อ Sifr Aromatic ร้านนี้มีชื่อเสียงเรื่องของกลิ่นที่มีให้เลือกมากมายโดยมีกลิ่นหลัก (Heart Notes)ทั้งกลิ่นวานิลลา ไม้จันทน์ ยาสูบ หนังซิตรัสและดอกมะลิ ที่นำเอาหัวเชื้อน้ำหอมและขวดน้ำหอมวินเทจจากฝรั่งเศสมาใช้ภายในร้าน นอกจากนี้ยังให้บริการรังสรรค์กลิ่นน้ำหอมเฉพาะบุคคล โดยนำเอาวัตถุดิบใหม่ ๆ อาทิ พริกไทยสีชมพูและวาซาบิ มาสรรค์สร้างให้เกิดกลิ่นที่เข้ากับบุคลิกของเจ้าของน้ำหอม ได้อย่างน่าอัศจรรย์และยังมีเวิร์กชอปการทำน้ำหอมสำหรับผู้ที่สนใจได้เรียนรู้อีกด้วย

ย่านกัมปงเกอลัม เป็นย่านที่มีความสำคัญต่อสตรีทอาร์ตในสิงคโปร์เป็นอย่างมาก โดยกราฟฟิตี้ ฮอลล์ออฟ เฟรม (Graffiti Hall of Fame)ผลงานศิลปะชิ้นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งแล้วเสร็จเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา เป็นโปรเจกต์ที่เกิดจากความร่วมมือของศิลปินในสิงคโปร์กว่า 17 ชีวิต อาทิดิดิเยร์ จาบา มาติเยอ(Didier Jaba Mathieu) สแลคซาทู (Slacsatu)ซีโร(ZERO)และแอนซ์(ANTZ)รวมถึงศิลปินหน้าใหม่อย่าง โจจีอะโตมิกค์ (JojieAtomick)และสตูดิโอ มูนชายด์(Studio Moonchild) ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของสิงคโปร์และสร้างคุณค่าให้กราฟฟิตี้เป็นที่ยอมรับของประชาชนทั่วไปผ่านแผ่นผนังซึ่งเป็นรั้วกั้นเขตก่อสร้างความสูงกว่า 5 เมตรยาว 230 เมตรมาเป็นผนังแสดงศิลปะที่สะท้อนภาพสังคมของย่านกัมปง เกอลัมที่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

โดยผลงานกราฟฟิตี้นี้ถูกจัดแสดงเพียงชั่วคราวในโซนก่อสร้างโดยกลุ่มวันกัมปง เกอลัม(One Kampong Gelam) ได้ร่วมกับการท่องเที่ยวสิงคโปร์(STB)นำศิลปะมาเชื่อมกับชุมชนโดยผลงานเหล่านี้ยังสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดผลงานผ่านระบบเสมือนจริง(Augmented Reality)ได้อีกด้วย ใครอยากสัมผัสเสพศิลป์ผ่านงานกราฟฟิตี้นี้ ลองกันได้เลย  พร้อมกันนี้ยังมีทัวร์สิงคโปร์ไซด์คาร์(SingaporeSidecar) ที่จะพานั่งรถพ่วงวินเทจไปพร้อมกับไกด์เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของย่านนี้ และในอนาคตจะเปิดให้เวิร์กชอปกับเหล่าศิลปินอีกด้วย

ผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดโปรเจกต์ใหม่ ในการทำกราฟฟิตี้โดยศิลปินชื่อดังชาวสิงคโปร์เออร์เนสต์ซาคาเรวิก(Ernest Zacharevic) โดยนำผลงานที่สร้างขึ้นในปี 2013ต่อขยายสู่ชิ้นงานใหม่ในปี 2020 อันเป็นโดยผลงานชิ้นนี้ได้พูดถึงชุมชนของย่านกัมปงเกอลัมที่ทุกคนอยู่ร่วมกันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยชิ้นงานไอคอนิคของเออร์เนสต์นั้นคือ ภาพเด็กสองคนที่นั่งอยู่ในรถเข็นโดยใช้รถเข็นของจริงมาประกอบจนกลายเป็น“ตู้ปันสุข”ที่ชาวสิงคโปร์ได้แบ่งปันของใช้หรืออาหารให้แก่กันโดยเป็นผลงานร่วมของศิลปินและนักเรียนกว่า 22 คนตั้งอยู่ที่อาคารสำนักงานของบริษัทเอเอ็มซี เอเชีย จำกัด (AMC Asia pte. ltd)

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสถานที่ที่น่าสนใจของย่านวันกัมปง เกอลัมหากคนไทยสนใจออกเที่ยวทิพย์ตามล่าหาสถานที่ท่องเที่ยวสุด Unseen ของย่านนี้ และสำหรับผู้ที่สนใจผลงานกราฟฟิตี้สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://hof.visitkamponggelam.com.sg/
 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ไขปริศนา"ความสูง"ลูกน้อย ให้โตเป็น"นักกีฬาอาชีพ"

"ล็อกดาวน์" แล้วเตรียมเข้าครัว เปิดสูตร "ลูกแพรตุ๋นไวน์แดง"   คาเฟ่ดัง Mamaison cafe