ชาวบ้านแจ้งจับ "ท้าวแชร์บ้านอุ้ม" จอบแสบ ตุ๋นเงินกว่า 10 ล้าน

ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายจากการร่วมเล่นแชร์กว่า 10 ราย ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อเอาผิดกับ นายสม (สมมุติ) ท้าวแชร์ วัย 34 ปี ที่เป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตแห่งหนึ่ง โดยหลังเข้าร่วมเล่นแล้วไม่ได้รับการจ่ายเงินตามที่ตกลงกันไว้ จนทำให้สูญเงินรวมกว่า 10 ล้านบาท

 

 

 

นางสาวนิรชา (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองรู้จัก"บ้านแชร์ท้าวอุ้ม" ออมเงินออมทอง จากเพื่อนที่ได้ชักชวนกันมาลงเล่นแชร์ ซึ่งเป็นการลงแชร์เพื่อแลกกับดอกเบี้ยประมาณ 10-20 % ของยอดลงแชร์ เมื่อตนเข้าร่วมลงแชร์ตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งตอนแรกยังไม่ได้ลงแชร์หนักมาก แค่เพียงครั้งละ 1,000 ทุกๆ 3-4 วันบ้าง แค่นั้นก่อนที่จะเริ่มลงหนักในช่วง 3 เดือนสุดท้าย ที่ลงไปกว่า 1.3 ล้านบาท

 

 

จนมาพบว่า "ท้าวแชร์" มีการประกาศล้มบ้าน ครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 กรกฏาคม, วันที่ 7 กรกฏาคม และล่าสุดเมื่อวานนี้ ที่ยืนยันว่า บ้านไม่สามารถไปต่อได้ หรือที่ในหมู่คนเล่นแชร์จะเรียกว่า "บ้านล้ม" ซึ่งในวงนี้มีผู้ร่วมลงเล่นรวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท  เมื่อมีการประกาศยุติการลงแชร์ ตัวท้าวเองก็ได้มีการประกาศว่า จะตั้งวงแชร์ใหม่เพื่อหาเงินมาเยียวยาลูกแชร์ของบ้านที่ปิดไป ซึ่งส่วนตัวมองว่า เป็นการนำเงินใหม่ไปใช้เงินเก่า ซึ่งเป็นเงินของทางลูกแชร์เองไม่ใช่การเยียวยาจากท้าวแชร์ แต่อย่างใด

 

นางสาวนิรชา  กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวมองว่า ลักษณะการดำเนินการของท้าวแชร์อุ้มรายนี้ มีลักษณะเหมือนเป็นขบวนการ เนื่องจากการสังเกตุพบว่ามือต้นๆ ที่จะได้เงินไปก่อนล้วนเป็นคนเดิมๆ และทราบข้อมูลว่า เป็นเพื่อนที่รู้จักกัน และเป็นคนจังหวัดยโสธรเหมือนกัน ซึ่งส่วนตัวมองว่า ถ้าหากลูกแชร์ที่ไม่ได้รู้จักกัน แต่มีพฤติการณ์มือตายบ่อยๆ ท้าวแชร์ ก็ไม่ควรปล่อยให้เป็นมือต้นๆ อีกทั้งยังพบว่า เลขาของบ้าน ที่ใช้ชื่อหวาน ก่อนหน้าเคยเปิดบ้านแชร์ ในชื่อท้าวเจี๊ยบ ก่อนจะล้มบ้านและมาเป็นเลขาที่บ้านท้าวอุ้ม

 

ซึ่งตัวท้าวอุ้มแจ้งว่า รู้อยู่ก่อนแล้ว แต่อยากให้โอกาส และก็ยอมให้มาเป็นมือต้นๆ ซึ่งตนเองมองว่าผิดปกติ และจากการที่สังเกตุพบว่า มือท้ายๆจะเป็นมือที่ลงหนัก ก่อนจะถูกปิดบ้านเพื่อล้มแชร์ และจะมีการเปิดวงแชร์หลายวงต่อวัน ในเงื่อนไขที่คล้ายๆกันคือ แชร์รายวัน แชร์ราย 3 วัน ราย 4 วัน ซึ่งลูกแชร์บางรายลงหลายมือในหลายวง ซึ่งก็จะได้รับความเสียหายจำนวนมาก

 

นางสาวนิรชา ยังระบุอีกว่า นอกจากการโดนหลอกให้ลงแชร์ แล้วล้มบ้านแชร์ ตนเองยังถูกท้าวแชร์ ติดต่อมาเพื่อขอให้ตนเองปล่อยกู้ให้กับลูกแชร์บางราย ที่ท้าวอ้างว่า เมื่อถึงวันจ่ายเงินให้กับลูกแชร์คนดังกล่าว ก็จะนำเงินมาให้ตนเอง และที่ให้มากู้ก่อน เพราะจะทำให้วงแชร์ไม่สะดุด แต่เมื่อใกล้ถึงวันจ่ายของลูกแชร์ ที่มายืมเงินจากตนเองไป ก็พบว่า บ้านแชร์ได้มีการล้ม โดยคิดมูลค่าความเสียหายกว่า 3 แสนบาท

 

“ยืนยันว่าตนเอง และผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความในครั้งนี้ จะไม่ยอมเจรจาไกล่เกลี่ย และจะดำเนินการทางกฏหมายให้ถึงที่สุด เพราะก่อนหน้านี้เคยเดินทางไปพบ เพื่อเจรจาทวงถาม  หรือบางรายทักไปทวงถามส่วนตัว ทางท้าวแชร์ก็ยืนยันให้ไปเจอกันที่ศาล และจะไม่ชดใช้ให้ อีกทั้ง "ท้าวแชร์" รายนี้ ยังได้แอบอ้างชื่อคนอื่นใส่ลงในวงแชร์ เพื่อเปียเงินออกมาก่อนลูกแชร์ อีกจำนวนกว่า 2-3 ชื่อด้วยกัน” นางสาวนิรชา ระบุ 

 

นอกจากนี้ยังมีบ้านแชร์บ้านอื่น ที่จากข้อมูลพบว่า มีความเกี่ยวข้องกัน ซึ่งการดำเนินการก็จะมีลักษณะที่เหมือนกัน คือมีรายชื่อลูกแชร์ตาย อยู่ในมือลำดับต้นๆ และลูกแชร์มือหนักๆ  จะอยู่ท้าย และเมื่อใกล้จะถึงมือท้าย จะมีประกาศล้มบ้านเหมือนกรณีบ้านท้าวอุ้ม ซึ่งตนเชื่อว่า มีการทำเป็นขบวนการในการล้มแชร์ จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความ เพื่อเอาผิดกับผู้ที่ร่วมกระทำผิดทั้งหมด