ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 "ศบค." มีมติจัดสรรวัคซีน"ไฟเซอร์" ในกับ"บุคลากรด่านหน้า" กว่า 7 แสนคน ก่อนจะกระจายไปยังกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีโณคประจำตัวเรือรัง 7 โรค ชาวต่างชาติในไทย
จากกรณีคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ มีมติให้กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ต้องได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 กลุ่ม mRNA เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หรือบูสเตอร์ โดส (Booster Dose)ก่อนเป็นกลุ่มแรก กว่า 7 แสนคน
ล่าสุด พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. เปิดเผยถึงข้อสรุป แนวทางบริหารจัดการวัคซีนที่ได้รับบริจาคจากต่างประเทศ ไฟเซอร์ และ แอสตร้าเซนเนก้า วิธีกระจายวัคซีนให้กลุ่มใดบ้าง โดยจัดแบ่งเป็นวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส สำหรับกลุ่มเป้าหมาย คือ บุคลากรทางการแพทย์ ที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หรือบูสเตอร์ โดส (Booster Dose)กว่า 7 แสนคน ผู้สูงอายุและผู้มีโรคเรื้อรัง 7 โรค ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัวเรื้อรัง ผู้ที่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เช่น นักเรียน นักศึกษา นักกีฬา นักการทูต สำหรับกลุ่มที่ฉีด 2 เข็มจะทำการฉีดห่างกัน 3 สัปดาห์
และวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 1.05 ล้านโดส จะกระจายให้กับกลุ่ม ผู้สูงอายุและผู้มีโรคเรื้อรัง 7 โรค ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัวเรื้อรัง ผู้ที่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เช่น นักเรียน นักศึกษา นักกีฬา นักการทูต สำหรับเข็มแรก จะจัดสรรให้คนไทย 9450,00โดส และชาวต่างชาติ 105,000 โดส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง