ข่าว

"เฉลิมชัย" ระดม 6 พันคลินิก ใช้ 'สมุนไพร-ตำรับยาไทย' รักษาโควิด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"เฉลิมชัย" เปิดแนวรุกสมุนไพรฝ่าแนวรบโควิด-19 จับมือกระทรวงสาธารณสุขและสภาการแพทย์แผนไทย ระดม 6 พันคลินิก พร้อมฮอตไลน์สายด่วนใช้ "สมุนไพร" และ "ตำรับยาไทย" ร่วมรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เตรียมคิกออฟ "เพชรบุรีโมเดล" เดินหน้าการแพทย์ทางร่วม 3 แนวทาง

เมื่อวันที่ 7 ก.ค.64 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ แถลงว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่รุนแรงมากขึ้น ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้เร่งส่งเสริมพืช"สมุนไพร"และ"ตำรับยาไทย" เพื่อแก้ไขปัญหาโควิด-19

 

โดยผนึกความร่วมมือกับสภาการแพทย์แผนไทยและกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข จากข้อสั่งการดังกล่าวกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดการประชุมหารือโดยประสานกับนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

มีนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯเป็นประธานและมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยนายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯพล.ร.อ.ชาญชัย เจริญสุวรรณ นายกสภาการแพทย์แผนไทย พันเอกนายแพทย์ พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา ประธานมูลนิธิจิตเป็นผู้ให้ใจเป็นนิพพาน

 

นพ.ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ดร.ภญ.มณฑกา ธีรชัยสกุล ผู้อำนวยการกองสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจ รศ.ดร.ธัญญะ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พท.ภ.บัญชา สุวรรณธาดา ที่ปรึกษาโครงการพัฒนาการแพทย์ไทยร่วมสมัย ฯลฯ

 

ทั้งนี้ที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันว่าพร้อมดำเนินแนวทางการแพทย์ทางร่วมระหว่าง การแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์แผนไทยโดยใช้ "สมุนไพร"และ"ตำรับยาไทย"ควบคู่กับยาแผนปัจจุบันซึ่งมี 3 แนวทางในการขับเคลื่อน ดังนี้


ทั้งนี้ที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่าควรเริ่มทดสอบแนวทางการแพทย์ทางร่วมที่โรงพยาบาลสนามจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีความพร้อมมากที่สุดเป็นแห่งแรกตามข้อเสนอของ พอ.นายแพทย์พงศพศักดิ์ ตั้งคณา โดยให้มีการจัดกลุ่มผู้ป่วยตามกลุ่มยาและให้ตรวจเลือดผู้ป่วยทั้งก่อนและหลังการบำบัดรักษาเพื่อวัดผลลัพธ์หากได้ผลดีจะขยายผลต่อไป

 

"จากนั้นได้มีการประชุมต่อเนื่องที่จังหวัดเพชรบุรีเมื่อวานนี้(วันที่ 6 ก.ค.)เป็นการประชุมร่วมระหว่างที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี สาธารณสุขจังหวัด ทีมแพทย์แผนไทยเพชรบุรี พ.อ.นายแพทย์ พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา โดยนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีเห็นด้วยและพร้อมดำเนินการในการรักษาผู้ป่วยตามแนวทางการแพทย์ทางร่วม ทั้งนี้ในส่วนสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรียินดีที่จะดำเนินการทันทีที่มีคำสั่งจากกระทรวงสาธารณสุขให้สามารถดำเนินการทดสอบดังกล่าวโดย พ.อ.นายแพทย์ พงศ์ศักดิ์แจ้งว่าพร้อมร่วมดำเนินการทดสอบและจะเป็นผู้สนับสนุนเครื่องยา และตำรับยาไทย เช่น ฟ้าทะลายโจร กระชาย เบญจโลกวิเขียร (5ราก) จันทน์ลีลาเป็นต้น" นายอลงกรณ์ กล่าว

 

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการสนับสนุนและส่งเสริมสมุนไพรไทยอย่างต่อเนื่องภายใต้นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯและนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการฯ โดยขับเคลื่อนนโยบายผ่านแผนแม่บทว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทยประกอบด้วย 5 ด้านคือ

 

ด้านยุทธศาสตร์สมุนไพรแห่งชาติ

ด้านการวิจัยและนวัตกรรมสมุนไพร
ด้านวัตถุดิบสมุนไพร
ด้านส่งเสริมอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพร
ด้านส่งเสริมภาพลักษณ์และการตลาดสมุนไพร  

 

ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ มีบทบาทหน้าที่ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การส่งเสริมผลิตผลของสมุนไพรไทยที่มีศักยภาพตามความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

 

จากการดำเนินการที่ผ่านมาได้สนับสนุนการปลูกพืชสมุนไพร 64,917 ไร่ จำนวน 80 ชนิดแบ่งเป็นพื้นที่ที่มาตรฐาน GAP จำนวน 54,755 ไร่ พื้นที่ที่มาตรฐาน Organic Thailand จำนวน 13,162 ไร่ 

 

พร้อมทั้งจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและกลุ่มเกษตรกร จำนวน 60 กลุ่มและมีการจัดทำมาตรฐานสินค้า GAP และมาตรฐานพืชสมุนไพรตามกลุ่มของส่วนที่ใช้ของพืช จำนวน 5 ฉบับ ได้แก่

 

ฉบับที่ 1 หัว เหง้า และราก
ฉบับที่ 2 ใบ ส่วนเหนือดิน และทั้งต้น
ฉบับที่  3 ดอก พืช สมุนไพรแห้ง
ฉบับที่ 4 ผลและเมล็ด
ฉบับที่ 5 เปลือกและเนื้อไม้


นอกจากนี้กระทรวงเกษตรฯยังมีการพัฒนาบุคลากรเพื่อตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบสมุนไพรรวมทั้งแผนดำเนินการปรับปรุงห้องปฏิบัติการที่ได้รับรองมาตรฐาน ISO 17025 เพื่อให้บริการตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบมาตรฐาน GAP หรือมาตรฐานเกษตรอินทรีย์

 

และได้จัดทำแผนที่ความเหมาะสมของที่ดินสำหรับปลูกพืชสมุนไพร(Land Suitability)จำนวน  24 ชนิด เช่น ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน ไพล บัวบก กระชายดำ กระชายเหลือง กระวาน ข่า ขิง คำฝอย ตะไคร้ บุก พริกไทย ว่านชักมดลูก กระเจี๊ยบแดง เก๊กฮวย ดีปลี บอระเพ็ด พญายอ เพชรสังฆาต มะระขี้นก มะลิ มะแว้งเครือ และมะแว้งต้น

 

รวมทั้งจัดทำฐานข้อมูลพื้นที่ปลูกพืชสมุนไพร เพื่อให้มีฐานข้อมูลพื้นที่ปลูกสมุนไพรที่ชัดเจนสามารถส่งเสริมเกษตรกรได้ โดยมีฐานข้อมูลสมุนไพรประกอบด้วย

 

ทั้งนี้สมุนไพรเป็นพืชเศรษฐกิจและพืชสุขภาพใช้ประโยชน์หลากหลายทั้งในการประกอบอาหารเป็นยารักษาโรค อาหารเสริมดูแลสุขภาพและเป็นผลิตภัณฑ์เวชสำอาง

 

ปัจจุบันความต้องการใช้สมุนไพรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเห็นได้จากมูลค่าการบริโภควัตถุดิบสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 43,100 ล้านบาทในปี 2560 เป็น 52,100 ล้านบาทในปี 2462ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ

 

และมุ่งเน้นใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติมากขึ้นทำให้เกิดแรงหนุนเรื่องธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องด้านสุขภาพรวมถึงโครงสร้างประชากรและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งเรื่องสังคมผู้สูงอายุและกระแสค่านิยมการบริโภคอาหารปลอดภัยมากขึ้นโดยเฉพาะในการแพร่ระบาดของโควิด-19

 

ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ เกษตรกรจะมีรายได้แน่นอนและมั่นคงถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ

 

นอกจากนี้กระทรวงเกษตรฯได้ร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในการส่งเสริมการแปรรูปสมุนไพรให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นสำหรับตลาดในประเทศและต่างประเทศแทนการส่งออกสมุนไพรในรูปของวัตถุดิบโดยเฉพาะสถานการณ์โควิด-19

 

“ล่าสุด ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ห่วงใยประชาชนจึงสั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ สนับสนุนและร่วมมือในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ของรัฐบาลโดยใช้ 3 แนวทางป้องกัน-รักษา-ฟื้นฟู ด้วยสมุนไพรและตำรับยาไทยเสริมการแพทย์แผนปัจจุบัน พร้อมกับชี้แนะว่าประเทศจีนคือตัวอย่างของประเทศที่ใช้สมุนไพรและตำรับยาจีนควบคู่กับการแพทย์แผนปัจจุบันสู้กับโควิด-19 จนประสบความสำเร็จ ซึ่งสมุนไพรและตำรับยาไทยใช้มาหลายร้อยปีได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยประชาชนคนไทยมาในแต่ละยุคแต่ละสมัยให้อยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้ การเสริมการแพทย์แผนปัจจุบันด้วยการแพทย์แผนไทยจะช่วยแก้ไขปัญหาโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี และควรทำพร้อมกันทั่วประเทศ” นายอลงกรณ์ กล่าวในที่สุด

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ