กองปราบจับ14ผู้ต้องหาขบวนการปั่น"เฟคนิวส์"

เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2564 พ.อ.ต.มนตรี เทศขัน รองผบก.ป.ผู้บังคับการกองปราบปราม แถลงผลการจับกุม ขบวนการปั่นเฟคนิวส์ โจมตีบริษัทนมชื่อดังได้รับความเสียหายหลังจากตัวแทนบริษัทนมแห่งหนึ่งได้เข้าแจ้งความกับ พนักงานสอบสวนกองปราบปรามเมื่อวันที่ 12 มี.ค.63 ว่าถูกเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ฉาว ต้อง แฉ” โพสต์ภาพและข้อความ ลักษณะบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท โดยเป็นการทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น ทำให้ทางบริษัทได้รับความเสียหาย จึงขอให้กองปราบปรามดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี

พ.อ.ต.มนตรี เทศขัน เปิดเผยว่า ชุดสืบสวนกองกำกับการ1 ได้ขยายผลจนทราบตัวเจ้าของแอดมินเพจดังกล่าวและพบผู้ร่วมขบวนการจำนวนกว่า 10 คน ชุดสืบสวน จึงทำการรวบรวมพยานหลักฐานจนนำไปสู่การขออนุมัติหมาย และขยายผลนำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 17 จุด ในพื้นที่กทม. จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 14 ราย ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา, เป็นอั้งยี่และซ่องโจร, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันบิดเบือนข้อมูลที่สร้างความเสียหายแก่ประชาชน และยึดของกลางเป็นสมุดบัญชีธนาคาร, เครื่องมือสื่อสาร, เอกสารเกี่ยวกับการเงินและ เอกสารสำคัญต่างๆรวม 100 รายการ

จากการสอบสวนทราบว่า เพจดังกล่าวได้กระทำมาตั้งแต่กลางปี 2562 โดยหนึ่งในพฤติการณ์ของขบวนการนี้ คือการส่งตัวแทนเข้าไปยื่นเอกสารให้ หน่วยงานที่มีอำนาจในการตรวจสอบคุณภาพสินค้า เช่น อย., สคบ.ให้เข้าไปตรวจสอบบริษัทดังกล่าว โดยมีจุดประสงค์เพียงแค่ต้องการลดความน่าเชื่อถือเท่านั้น

ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ทั้ง 14 ราย ประกอบได้ด้วยผู้ว่าจ้าง ซึ่งเป็นบริษัทที่เคยทำธุรกิจร่วมกับผู้เสียหาย คนกลางในการว่าจ้างและผู้ที่อยู่ในขบวนการปั่น Fake news ซึ่งทราบว่ามีผู้ร่วมขบวนการเป็นอดีตผู้สื่อข่าวร่วมด้วย ซึ่งทั้งหมดได้รับเงินว่าจ้างรวมกว่า 12 ล้านบาท

สำหรับสาเหตุการว่าจ้างในครั้งนี้ รองผู้บังคับการกองปราบปราม ระบุว่ามาจากปัญหาความขัดแย้งเชิงธุรกิจระหว่าง 2 บริษัท ส่วนรายละเอียดนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในสำนวนการสอบสวน ซึ่งหากผู้ต้องหาประสงค์จะยื่นขอประตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา แต่ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่ามีหลักฐานที่เชื่อว่าจะสามารถดำเนินคดีกับขบวนการดังกล่าวได้