จากกรณีที่รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรคภาควิชาอายุรศาสตร์ ศิริราชพยาบาล โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก "นิธิพัฒน์ เจียรกุล" ถึงการแพร่ระบาด ของโรคCovid-19 ว่าเข้าสู่ระลอกที่ 4 แล้ว และพบสายพันธุ์เดลตา เกินครึ่งในรพ.ศิริราช
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล แพทย์โรงพยาบาลศิริราช กล่าวถึงจุดเปลี่ยนของสถานการณ์การระบาดของ "Covid-19" ว่า ในประเทศไทยตอนนี้ เข้าสู่การระบาดรอบ 4 แล้ว เนื่องจากมีการพบว่าเชื้อสายพันธุ์หลักที่ระบาดในประเทศเปลี่ยนไปจากเดิม ที่เป็นสายพันธุ์ อัลฟา (สายพันธุ์อังกฤษ) มาเป็นสายพันธุ์เดลตา (สายพันธุ์อินเดีย) มากขึ้นเกิน 2 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด และ มันมีการระบาดเข้าไปในชุมชนมากขึ้น และผู้ติดเชื้อเองไม่สามารถรับรู้ได้ว่ารับเชื้อมาจากไหน และเชื้อได้ขยายเข้าไปในวงกว้างมากขึ้นโดยพบผู้ป่วยที่เป็นเด็ก และสตรีมีครรภ์มากขึ้นกว่าในการระบาดรอบที่ 3
สำหรับความน่ากังวล คือการที่เชื้อโรคมีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วมากขึ้น และพบอาการปอดอักเสบของคนไข้ เกิดเร็วขึ้นจากเดิม แต่จะรุนแรงกว่าเดิมหรือไม่นั้นยังต้องรอข้อมูล ยืนยัน
นพ.นิธิพัฒน์ กล่าวอีกว่า จำนวนตัวเลขของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา แต่ในต่างจังหวัด อาจจะมีจำนวนมาก เป็นบางจุด เช่นพื้นที่ชายแดนอย่าง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธุ์ และในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับแรงงานต่างด้าว ให้สันนิษฐานไว้ล่วงหน้าไว้ก่อนว่า จะเป็น สายพันธุ์เดลตา โดยเฉพาะแรงงานที่มาจากฝั่งเมียนมาร์
ทั้งนี้สายพันธุ์เดลตา(สายพันธุ์อินเดีย) จะพบเป็นผู้ป่วย ปอดอักเสบ ภายใน 3-5 วัน แตกต่างจากสายพันธุ์อัลฟา ที่จะอยู่ที่ 5-7 วัน จะต้องมีการเฝ้าระวังในเรื่องของการปอดอักเสบที่จะเกิดขึ้นได้เร็วขึ้น รีบให้ผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว ส่วนในเรื่องของวัคซีนในอีก 2-3 ควอเตอร์ข้างหน้า อาจจะต้อง รีบดำเนินการ ให้ครอบคลุมถึงสายพันธุ์เดลตา(สายพันธุ์อินเดีย)ให้มากขึ้น
เครดิต เฟซบุ๊ก นิธิพัฒน์ เจียรกุล
แนะนำให้ประชาชน ล๊อคดาวน์ตัวเอง ให้คิดว่าทุกคนรอบตัวมีเชื้อ หรือตัวเองมีเชื้อ ลดเว้นการไปที่สาธารณะ เพื่อป้องกันตัวเองและคนที่เรารักได้ดีที่สุด