เช็ก 10 จังหวัดเจอผู้ป่วย"โควิด"มากสุด กทม. ทะลุ 2.2 พัน คลัสเตอร์ใหม่เพียบ

เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด 19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยมีรายงานติดเชื้อใหม่ 6,087 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 5,869 ราย เรือนจำ 207 ราย เดินทางจากต่างประเทศ 11 ราย รักษาหายเพิ่ม 3,638 ราย เสียชีวิต 61 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 270,921 ราย หายป่วยสะสม 214,340 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 54,440 ราย อยู่ใน รพ. 26,025 ราย รพ.สนาม 28,415 ราย อาการหนัก 2,002 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 579 ราย

ผู้เสียชีวิต 61 ราย มาจาก กทม. 28 ราย นนทบุรี 9 ราย สมุทรปราการ 8 ราย ปัตตานี 5 ราย ปทุมธานี นราธิวาส จังหวัดละ 3 ราย เชียงราย สงขลา นครปฐม นครนายก และพระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 29 ราย หญิง 32 ราย อายุต่ำสุด 30 ปี สูงสุด 90 ปี อายุกลาง 67 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุ 70% โรคประจำตัวหลักคือความดันโลหิตสูง เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง “สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่เสียชีวิตมีรายงานด้วย มีทั้งแพทย์ ทันตแพทย์ พนักงานโรคพยาบาล เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข ถือเป็นการสูญเสียบุคลากรทางการแพทย์ เน้นย้ำเสมอไปรับบริการใน รพ. อย่าปกปิดข้อมูล เพราะบุคลากรเสี่ยงติดเชื้อ

สำหรับผู้ป่วย 100 ราย 5% จะมีอาการปอดติดเชื้อ อาการหนัก และ 2 ใน 5 คนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ โดย 10 คน จะมี 1-2 คนเสียชีวิต จึงต้องมีการบริหารจัดการเตียง จึงมีการเพิ่มเตียงเหลืองและแดง เพราะหากเป็นกลุ่มเสี่ยง คือ สูงอายุและ 7 โรคเรื้อรัง อาจมีการป่วยหนักเสียชีวิตสูง จึงต้องเพิ่มเตียงและระดมฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยงสูง เป็นนโยบายสำคัญเดือก.ค.” พญ.อภิสมัยกล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ส่วนการติดเชื้อมาจากต่างประเทศ 11 ราย มาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย รัสเซีย 1 ราย พม่า 1 ราย มาจากช่องทางธรรมชาติ และกัมพูชา 8 ราย ผิดกฎหมาย 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 76 ปี สำหรับจังหวัดที่ไม่พบการติดเชื้อในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาตัวเลขเล็กลงเหลือ 3 จังหวัด คือ พังงา ลำพูน และแม่ฮ่องสอน สำหรับสัดส่วนการติดเชื้อของ กทม.รายวันอยู่ที่ 39% ปริมณฑล 25% รวมกัน 64% ถือว่าสูงเมื่อเทียบกับต่างจังหวัด

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า กลุ่มที่มีการรายงานระลอกใหม่ มีความเชื่อมโยงกับการเดินทางจาก กทม.และปริมณฑล ซึ่งสัปดาห์นี้เน้นย้ำตลอดว่ามีคนจาก กทม. ปริมณฑล 5 จังหวัด มีการเดินทางข้ามพื้นที่ทำให้เกิดกรณีจังหวัดไม่มีรายงานติดเชื้อมานานหรือติดเชื้อต่ำมีการติดเชื้อมากขึ้น โดยมีการกระจายไปภาคเหนือ 5 จังหวัด อีสาน 15 จังหวัด กลางและตะวันออก 8 จังหวัด และใต้ 6 จังหวัด รวม 34 จังหวัด ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับการติดเชื้อสูงสุด 10 จังหวัดวันนี้ เกิน 100 ราย ทั้งหมด ได้แก่ 1.กทม. 2,267 ราย สะสม 77,046 ราย 2.สมุทรปราการ 522 ราย สะสม 17,959 ราย 3.นนทบุรี 327 ราย สะสม 11,815 ราย 4.สมุทรสาคร 289 ราย สะสม 8,550 ราย 5.ปทุมธานี 284 ราย สะสม 8,497 ราย 6.ชลบุรี 222 ราย สะสม 8,907 ราย 7.ยะลา 201 ราย สะสม 2,176 ราย 8.ปัตตานี 169 ราย สะสม 2,539 ราย 9.สงขลา 167 ราย สะสม 4,884 ราย และ 10.นราธิวาส 124 ราย สะสม 2,285 ราย

กทม.ยังคงเฝ้าระวังคลัสเตอร์อย่างต่อเนื่อง โดยมี 113 คลัสเตอร์ ไม่พบป่วยใหม่ 28 วัน 27 แห่ง ไม่มีรายงานต่เนื่อง 14 วัน จำนวน 11 แห่ง และรายงานใหม่ 2 แห่ง คือ คลอเงตย แคมป์ก่อสร้าง ซอยสุขุมวิท 50 รายงาน 43 ราย และหนองแขม โรงงาน 70 ราย จากพนักงาน 1,300 คน คิดเป็น 5.38% นอกจากการบริหารจัดการเตียงยังคงหาเชื้ออย่างต่อเนื่อง” พญ.อภิสมัยกล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า คลัสเตอร์ใหม่อื่นๆ ในต่างจังหวัด ได้แก่ 1.สมุทรปราการ โรงงานเฟอร์นิเจอร์ อ.เมือง 21 ราย 2.นนทบุรี ตลาดเทศบาล อ.ปากเกร็ด 43 ราย ตลาดพิชัย อ.ปากเกร็ด 75 ราย 3.สมุทรสาคร บริษัทผลิตภัณฑ์พลาสติก อ.เมือง 12 ราย โรงงานลูกชิ้น อ.กระทุ่มแบน 11 ราย 4.สุราษฎร์ธานี แคมป์ก่อสร้าง อ.พุนพิน 11 ราย

5.ขอนแก่น ศูนย์พัฒนาเด็ก อ.สีชมพู 45 ราย เน้นย้ำทุกจังหวัดนอกจากเฝ้าระวังคนเดินทางข้ามแดนผิดกฎหมาย ดูแลคลัสเตอร์ใหญ่ โรงงาน ตลาด ชุมชน ขอให้มีมาตรการเข้มงวด 15 วันต่อจากนี้ เพื่อหวังว่าตัวเลขจะลดลง ให้ระบบสาธารณสุขรองรับผู้ติดเชื้ออย่างมีประสิทธิภาพ