ข่าว

ปรับด่วน ฉีดดะไม่รอดหมอชี้เป้า 2 กลุ่มฝ่าวิกฤติ "โควิด-19" คร่า 2.8 พันราย ก.ย.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาด สะกิด นายกฯ - ศบค. - ผู้ว่าฯ ปรับยุทธศาสตร์ เสนอ 2 ทางเลือก ฝ่าวิกฤติ "โควิด-19" คร่าชีวิต 2.8 พันรายเดือน ก.ย.

2 กรกฎาคม 2564 เกาะติดสถานการณ์วิกฤติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) ระลอกใหม่ (เมษายน 2564) ในประเทศ ที่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายแพทย์ คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิผู้เชี่ยวชาญในด้านระบาดวิทยาที่ปรึกษาด้านวิชาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการเสวนา "วัคซีนโควิด ไทยจะเดินต่อไปอย่างไร" ว่า บรรยากาศของประเทศไทยตอนนี้ เหมือนกับเรากำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ โดยช่วง 3 เดือนจากนี้ คือเดือน ก.ค. - ก.ย. นี้ เรากำลังเลือกเอาว่าเราจะสามารถเปิดประเทศได้หรือเรากำลังก้าวเข้าสู่วิกฤติที่กำลังถลำลึกลงไปอีก

วันนี้ ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงาน เมื่อเวลา 12.30 น. สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 ผู้ป่วยรายใหม่ 6,087 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 242,058 ราย หายป่วยแล้ว 186,914 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 61 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 2,047 ราย ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 1 กรกฎาคม 2564 มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 10,227,183 โดส วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 มีผู้รับการฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 253,731 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 45,754 ราย

โควิด-19, วัคซีน โควิด-19, สายพันธุ์เดลตา, สายพันธุ์อินเดีย, สายพันธุ์อัลฟา, สายพันธุ์อังกฤษ

โควิด-19, วัคซีน โควิด-19, สายพันธุ์เดลตา, สายพันธุ์อินเดีย, สายพันธุ์อัลฟา, สายพันธุ์อังกฤษ

โควิด-19, วัคซีน โควิด-19, สายพันธุ์เดลตา, สายพันธุ์อินเดีย, สายพันธุ์อัลฟา, สายพันธุ์อังกฤษ

นายแพทย์ คำนวณ กล่าวต่อว่า ตนอยากเสนอข้อเท็จจริง 5 ข้อด้วยกัน และทางเลือก 2 ทางเลือกที่จะฝ่าวิกฤติรอบนี้ จึงอยากจะขอให้ทุกฝ่ายช่วยคิดตาม 1. ขณะนี้ เราอยู่ในระลอก 3 จาก สายพันธุ์อัลฟา (สายพันธุ์อังกฤษ) ที่ติดต่อได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เราตั้งตัวไม่ทัน เรามีคนไข้เสียชีวิตประมาณ 50 คนต่อวันในขณะนี้ คำถามว่า เดือนหน้า เดือนถัดไป อัตราการเสียชีวิตจะเป็นอย่างไรบ้าง ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดลงความเห็นตรงกันว่า สถานการณ์จะแย่กว่าเดิม เหตุผลเพราะสายพันธุ์ใหม่ หรือ สายพันธุ์เดลตา (สายพันธุ์อินเดีย) เข้ามายึดครองการระบาด ซึ่งข้อมูลของกรุงเทพมหานครตอนนี้อยู่ที่ 40% แล้ว ในไม่ช้าเดือนนี้หรือเดือนหน้าจะเป็นเชื้อสายพันธุ์เดลตาทั้งหมด ซึ่งสายพันธุ์นี้มีความสามารถในการแพร่เชื้อเร็วกว่าสายพันธุ์เดิม 1.4 เท่า

 

"เพราะฉะนั้นคิดง่ายๆ ว่าถ้าเผื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา เรามีคนเสียชีวิตทั้งเดือน 992 คน ซึ่งเป็นภาระใหญ่มาก ถ้าสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้ เดือน ก.ค. เราจะมีคนเสียชีวิตประมาณ 1,400 คน ส.ค. 2,000 และพอถึงเดือน ก.ย. จะมีผู้เสียชีวิตเป็น 2,800 คน ตอนนี้เรามีผู้เสียชีวิต 900 กว่าคนยังทำให้ระบบสาธารณสุขเดินหน้าต่อไปไม่ได้ และถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ก็แน่นอนว่าเราจะไม่สามารถไปรอดได้" นายแพทย์ คำนวณ กล่าวและว่า

2. แต่มันมีทางออก คือ ร้อยละ 80 ของคนที่เสียชีวิตเป็นคนสูงอายุหรือเป็นคนที่มีโรคประจำตัว ถ้าเราสามารถปกป้องคนกลุ่มนี้ได้ ก็จะลดการเสียชีวิตลงได้อย่างมาก และอยู่ในวิสัยที่เราจะแก้ปัญหาได้ จากตัวเลขคนสูงอายุติดเชื้อ 100 คน จะเสียชีวิต 10 คน แต่ถ้าอายุน้อยแต่ติดเชื้อ 1 พันคนจะเสียชีวิตแตกต่างกันมาก เพราะฉะนั้นเรามีอาวุธที่ดี คือ วัคซีน เป้าประสงค์แรกเราต้องการลดการเจ็บหนัก ลดการเสียชีวิตก่อน วัคซีนทุกตัวที่องค์การอนามัยโลกขึ้นทะเบียนส่วนใหญ่ได้ผลในการลดอาการหนัก ลดการเสียชีวิตได้ประมาณ 90% ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องไปสนใจเรื่องยี่ห้อ

 

3. ทั้งนี้ ประเทศไทยกำลังใช้ยุทธศาสตร์ที่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ คือ การฉีดแบบปูพรมให้คนไทยได้วัคซีน 70% โดยหวังว่าถ้าเราทำได้แบบนั้นจริงจะมีการติดเชื้อน้อยลง คนจะเสียชีวิตน้อยลง แต่ปัญหา คือ เรามั่นใจหรือไม่ว่า 70% จะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ นักวิชาการบางส่วนบอกว่า ไม่ได้ เพราะในอังกฤษเริ่มมีคนติดเชื้อเยอะขึ้น เพราะฉะนั้นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ อาจจะต้องไปถึง 90% และต้องใช้วัคซีนที่ดีมากๆ

4. แต่ถ้าเราต้องการลดการเสียชีวิตเราสามารถเปลี่ยนยุทธศาสตร์ได้ด้วยการใช้ยุทธศาสตร์แบบมุ่งเป้า ซึ่งเดิมเราใช้ยุทธศาสตร์ 2 ขั้นตอน ระยะแรก คือ มุ่งเป้าฉีดคนสูงอายุและกลุ่มเสี่ยงให้จบภายในเดือน ก.ค. - ส.ค. แต่ตอนหลังเนื่องจากเรามีความต้องการเยอะมาก เราต้องการให้ภาคโรงงานไม่เจ็บป่วย เราต้องการควบคุมการระบาด เวลาเกิดการระบาดในชุมชนเราจะไปฉีดวัคซีน เราต้องการเปิดโรงเรียนเราก็เอาวัคซีนไปให้กับสถาบันต่างๆ เราต้องการเปิดแหล่งท่องเที่ยวเอาวัคซีนไปให้ ซึ่งเป็นความคิดที่ดี แต่การจะทำอย่างนั้นได้มีเงื่อนไขสำคัญ คือ 1. เราต้องมีวัคซีนไม่จำกัด มีมากเพียงพอ 2. เรามีขีดความสามารถในการฉีดได้อย่างรวดเร็ว เพราะสปีดการแพร่ระบาดเร็วมาก ตอนนี้ ทุกประเทศยอมรับกันหมดว่าไม่มีประเทศไหนที่จะมีวัคซีนไม่จำกัด แม้กระทั่งอเมริกา อังกฤษ หรือ ยุโรป ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนเอง ก็ยอมรับว่า ไม่สามารถใช้วิธีการฉีดปูพรม สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้อย่างรวดเร็ว จึงมาใช้การลดการป่วยการเสียชีวิตก่อน

 

5. หากสังเกต 1 เดือน ที่ผ่านมา ขีดความสามารถในการฉีดวัคซีน โควิด-19 ของไทยไม่ได้เป็นคำถาม เพราะเราฉีดได้ 10 ล้านคน แต่ใน 10 ล้านคนเมื่อดูแล้วคนสูงอายุได้แค่ 10% ถ้าเราเดินแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพิ่มไปได้แค่เดือนละ 10% เราอาจจะต้องใช้เวลา 7 - 8 เดือนกว่าจะป้องกันคนสูงอายุได้

และนี่คือข้อเท็จจริง เพราะฉะนั้นเรามีทางเลือก 2 ทาง คือ

ทางเลือกที่ 1 ทำแบบเดิมจะเห็นผลก็ต่อเมื่ออีก 5 - 6 เดือน ซึ่งจะไม่ทันกับปัญหาวิกฤติของเตียง

ทางเลือกที่ 2 ถ้าเรายอมรับว่าวัคซีนมีอยู่จำกัด และพยายามหามาเดือนละ 10 ล้านโดสนั้น ถ้าเผื่อไม่ได้ ก็ต้องเปลี่ยนยุทธศาสตร์ เอาวัคซีนที่มีทั้งหมดในมือมาทำความตกลงกันไว้ ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี ศบค. ผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องวางเป้าหมายแรก ลดเจ็บหนักและเสียชีวิตในกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงก่อน ซึ่งเรามีกลุ่มนี้ 17.5 ล้านคน ตอนนี้เราฉีดได้ 2.5 ล้านคน อีก 15 ล้านคนเราต้องการฉีดให้จบภายใน 2 เดือน คือ ก.ค. - ส.ค.

 

 

หากเราเลือกทางที่ 2 เราจะลดการเสียชีวิตได้ โดยแทนที่จะเป็นหลักพันคนในเดือน ก.ค. แต่พอเดือน ส.ค. จะเหลือประมาณ 800 คน เดือน ก.ย. จะเหลือประมาณ 600 - 700 คน หรือวันละประมาณ 20 คน อยู่ในวิสัยที่ระบบสาธารณสุขยังเดินหน้าต่อไปได้ แต่ถ้าเราเดินยุทธศาสตร์เดิมและเราจะมีปัญหามาก วันนี้เราปิดกิจการต่างๆ ปิดแคมป์ แต่จำนวนคนเจ็บจะมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งต้องปิดมากขึ้นไปเรื่อยๆ ยิ่งไม่เป็นผลดี เพราะเศรษฐกิจเดินไม่ได้ แต่ถ้าเอาแบบหลังอาจจะไม่จำเป็นต้องปิดมากขึ้น แต่สามารถผ่อนคลายได้ แต่ถ้าต้องการลดคนเสียชีวิตอีกก็ต้องทำเรื่องของเตียงเพิ่ม และค้นหากลุ่มเสี่ยงให้เร็ว

"เพราะฉะนั้นอยากจะสรุปว่า ตอนนี้ผู้บริหาร ท่านนายกฯ ท่านรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อท่านได้โควตาวัคซีนไป คำถามคือว่า ท่านจะฉีดให้ใครก่อน 2 ทางเลือกหากท่านเลือกทางเลือกแรก หลายจุดมุ่งหมายการคาดการณ์ คือ จำนวนผู้ป่วยจะเกินแล้วเรารับไม่ไหว แต่ถ้าทุกคนเห็นตรงกันว่าเอาวัคซีนให้กับคนสูงอายุ คนมีอายุมีโรคประจำตัวก่อน เรื่องนี้ทางวิชาการมีแล้ว ในอังกฤษ อเมริกาก็ทำ ซึ่งแม้ยังมีจำนวนคนติดเชื้อ แต่คนตายไม่เยอะก็จะไม่มีปัญหาเท่าไร ที่สำคัญ ศบค. สามารถออกคำสั่งให้ผู้ว่าฯ ดำเนินการ หากไม่มีไกด์ไลน์ชัดเจน ทางผู้ว่าฯ ก็จะไม่สามารถจัดการได้ แต่หากมีชัดเจน ก็จะทำได้ทันที" นพ.คำนวณ ทิ้งท้าย

อ่านข่าว - ร่างสัญญาทิพย์ "โมเดอร์นา" (Moderna) สำนักงานอัยการสูงสุดไม่เคยเห็น

อ่านข่าว - ลงทะเบียนด่วน "ซิโนฟาร์ม" วัคซีน โควิด-19 เฉพาะคนพิการ กทม.และปริมณฑล

อ่านข่าว - รู้จัก "โมเดอร์นา" Moderna วัคซีนโควิด-19 เหมาะกับ 18 ปีขึ้นไป ลงทะเบียนเลย

CR : ศูนย์ข้อมูล COVID-19

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ