ข่าว

แคมเปญ "#กูจะเปิดมึงจะทำไม" โดนแล้ว ตำรวจเตือนผิด พรก.ฉุกเฉินฯ โทษหนักคุก 7 ปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แคมเปญร้านอาหาร "#กูจะเปิดมึงจะทำไม" ที่แชร์ว่อนไปทั่วโลกออนไลน์ โดนแล้ว ตำรวจเตือนผิด พรก.ฉุกเฉินฯ โทษหนักคุก 7 ปี

จากกรณีโลกออนไลน์ ได้มีการแชร์ภาพและข้อความ เกี่ยวกับแคมเปญ "#กูจะเปิดมึงจะทำไม" โดยมีการชักชวน และเชิญชวน กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร ให้ร่วมกันแสดงอารยะขัดขืนต่อมาตรการของรัฐบาล ที่กำลังดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  เปิดเผยว่า การประกาศบนสื่อสังคมออนไลน์ ในลักษณะชักชวนให้ประชาชน และร้านค้า ออกมาร่วมกันเปิดร้าน หรือมีการรวมตัวเกินกว่า 20 คน และกระทำการอื่นใด อันเป็นการฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉินฯ และประกาศหรือคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดในแต่ละพื้นที่

 

โดยเฉพาะในพื้นที่ 10 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หลังจากที่มีการโพสต์เรื่องราวดังกล่าวลงไป ทำให้มีพี่น้องประชาชน เข้าไปแสดงความเห็น และสนใจในเรื่องดังกล่าวเป็นจำนวนมากนั้น

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ทางตำรวจกำลังอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้อง "#กูจะเปิดมึงจะทำไม" จึงขอตักเตือนไปยังผู้ที่ประกาศชักชวน และผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมว่า หากมีการฝ่าฝืนกฎหมาย ตำรวจจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืนอย่างจริงจังและเข้มงวดต่อไป

 

ผู้ที่ประกาศชักชวนนั้น เบื้องต้นเข้าข่ายความผิดฐานทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใด เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ความผิดฐานนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท ตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14(3) ความผิดฐานโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทำความผิด มีโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 85

 

 

 

ส่วนผู้ที่ออกมาร่วมกิจกรรม เข้าข่ายความผิดฐานฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พรก.ฉุกเฉินฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใย การออกมาทำกิจกรรมหรือการชุมนุมในห้วงนี้ เป็นการเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคสูง ซึ่งในข้อกำหนดฯ ได้ประกาศให้พื้นที่กรุงเทพมหานคร และอีก 9 จังหวัด เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนปฏิบัติตามข้อกำหนดฯ ประกาศหรือคำสั่ง และมาตรการป้องกันโรคที่รัฐบาลกำหนดโดยเคร่งครัด เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในบ้านเมืองต่อไป

 

รองโฆษกตร. กล่าวว่า การชักชวน "#กูจะเปิดมึงจะทำไม" และปลุกปั่น ให้กระทำผิดในลักษณะอารยะขัดขืน ฝ่าฝืนกฎหมาย ระเบียบ หรือคำสั่งที่เกี่ยวข้อง นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคและวิกฤติในครั้งนี้ไปด้วยกัน และขอให้ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ใช้วิจารณญาณในการเลือกรับฟังข้อมูลข่าวสาร หลีกเลี่ยงการถูกชักชวนให้กระทำความผิด นอกจากนี้หากพบเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ