ข่าว

"ครม. มติเยียวยา"ก่อสร้าง-ร้านอาหาร"-ผู้ได้รับผลกระทบประกาศมาตรการเข้ม ฉ.25 พร้อมเดินหน้า "คนละครึ่ง -ยิ่งใช้ยิ่งได้"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ครม."เห็นชอบหลักการ เยียวยาผู้ประกอบการ แรงงาน ได้รับผลกระทบประกาศมาตรการเข้ม ฉ.25 พร้อมเดินหน้า"คนละครึ่ง -ยิ่งใช้ยิ่งได้"ตามกำหนดเดิมกรกฎาคม

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการออกคำสั่งที่ 25 ตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ 6 จังหวัดได้แก่ กรุงเทพมหานครนครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ซึ่งได้รับผลกระทบจากการสั่งปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง รวมไปถึงการขายอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่อนุญาตให้นั่งทานในร้าน กิจกรรมประชุมสัมมนาจัดเลี้ยงและห้ามทำกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มกันเกิน 20 คน ตามมาตรการที่ประกาศออกมาจึงมีการคำนึงถึงผลกระทบของประชาชนโดยเฉพาะลูกจ้างแรงงานและผู้ประกอบการจึงได้มีมติเห็นชอบด้วยกับหลักการในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการออกคำในฉบับที่ 25

โดยพื้นที่ให้ความช่วยเหลือได้แก่พื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ช่วยเหลือ คือกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการในกิจการที่ได้รับผลกระทบ กิจการก่อสร้าง กิจการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร กิจกรรมศิลปะความบันเทิง และนันทนาการและกิจกรรมบริการด้านอื่นๆ เช่น การซ่อมคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสาร ซ่อมรองเท้าเครื่องหนัง ซ่อมจักรยานยนต์ ลดน้ำหนัก แต่งผม ดูแลความงาม หรือตามที่สำนักงานประกันสังคมได้กำหนดจะได้รับการเยียวยา โดยมีระยะเวลาในการช่วยเหลือจำนวน 1 เดือน 

รวมไปถึงการช่วยเหลือแรงงานที่อยู่ในระบบประกันตนตามมาตรา 33 จะได้รับเงินช่วยเหลือในอัตรา 2,000 บาทต่อคน นอกเหนือจากการช่วยเหลือในระบบประกันสังคมตามปกติตามที่ลูกจ้างได้รับทดแทนในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวันสูงสุดไม่เกิน 7500 บาท 

สำหรับผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตน ม. 33 จะได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม 3,000 บาทต่อหัวสูงสุดไม่เกิน 200 ราย

ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการที่ไม่มีลูกจ้างให้ลงทะเบียนผ่าน Application ถุงเงินผ่านโครงการคนละครึ่งให้เสร็จสิ้นภายในเดือนกรกฎาคม 2564 แล้วผู้ประกอบการจะได้รับการช่วยเหลือ 3,000 บาท

ขณะที่ผู้ประกอบการอยู่ในหมวดร้านอาหารหรือเครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่ง ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคมเนื่องจากไม่มีลูกจ้างจะได้รับการช่วยเหลือจำนวน 3,000 บาทเช่นกัน โดยให้เหตุผลว่าการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นถุงเงินเนื่องจากการการลงทะเบียนจะให้มีการระบุว่าทำกิจกรรมอะไรมีหมวดหมู่ชัดเจน

ทั้งนี้ที่ประชุม ครม.ให้กระทรวงการคลังดำเนินการตามแผนเดิมที่อนุมัติโครงการไว้ก่อนหน้านี้เช่นโครงการเพิ่มกำหนดซื้อให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในระยะที่ 3 โครงการคนละครึ่งในระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ตามกำหนดเวลาเดิมเดือนกรกฎาคมพร้อมมอบให้กระทรวงแรงงานประสานขอความร่วมมือกับสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย สมาคมภัตตาคารอาหารไทย ดูแลแรงงานที่พักอาศัยชั่วคราวอยู่ภายในแคมป์

ส่วนมาตรการที่ช่วยเหลือผู้ประกอบการในระยะต่อไปให้พิจารณาช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมทั่วประเทศโดยมอบหมายให้กระทรวงแรงงานเร่งประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างให้ลงทะเบียนในระบบประกันสังคม พร้อมทั้งมอบหมายให้สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประสานกับกระทรวงแรงงานและกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณากำหนดรูปแบบการให้การช่วยเหลือเยียวยาให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ต่อไปในอนาคต

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ