ข่าว

"พนักงานบริการกลางคืน"แขวน "รองเท้าส้นสูง-บิกินี่" หน้าทำเนียบฯ เรียกร้องเยียวยา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"พนักงานบริการกลางคืน"แขวน "รองเท้าส้นสูง-บิกินี่" หน้าทำเนียบฯ แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อทวงถามรัฐบาลให้เร่งเยียวยาคนละ5,000โดยเร่งด่วน 

กลุ่มพนักงานบริการในมูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ อาทิ คนทำงานบริการในสถานบริการ บาร์ คาราโอเกะ อะโกโก้ อาบอบนวด นวดสปาและคนทำงานในพื้นที่อิสระรวมไปถึงบนแพลตฟอร์มออนไลน์รวมตัวกันยื่นหนังสือเพื่อทวงเงินเยียวยาจากรัฐบาลถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี โดยมี นายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงาน ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนในการรับหนังสือ

ตัวแทนกลุ่ม กล่าวว่าเราเป็นกลุ่มพนักงานบริการในมูลนิธิเอ็มพาวเวอร์เรารวมกลุ่มกันเพื่อทำกิจกรรมสิทธิของพนักงานบริการ สมาชิกในกลุ่มคือคนทำงานบริการในสถานบริการ บาร์ คาราโอเกะ อะโกโก้ อาบอบนวด นวดสปาและคนทำงานในพื้นที่อิสระรวมไปถึงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เราพนักงานบริการทำกิจกรรมให้เรามีคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยในการทำงานและได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายแรงงานได้รับสิทธิไม่ถูกเลือกปฏิบัติ

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ตั้งแต่มกราคมปี2563 จนกระทั่งดอนนี้เป็นเวลากว่า 18 เดือนที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศไทยทั้งธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่ต้องปิดตัวลง ลูกจ้างถูกไล่ออกเกิดภาวะตกงานทั่วประเทศอีกทั้งการบริหารจัดการแก้ไขของรัฐบาลที่ไม่มีประสิทธิภาพและล่าช้า แม้ว่ารัฐบาลจะได้ออกมาตรการต่าง ๆ มาช่วยเหลือประชาชน เช่น โครงการเราชนะ เราไม่ทิ้งกัน เรารักกันหรือเงินช่วยเหลือจากประกันสังคมซึ่งพบว่าเงินเยียวยาไม่เพียงพอและไม่ทั่วถึงกับแรงงานในทุกๆกลุ่ม เช่น พนักงานบริการที่ไม่มีประกันสังคม แรงงานข้ามชาติ ผลกระทบที่เกิดกับพนักงานบริการที่ยาวนานต่อเนื่อง คือตกงานไม่มีรายได้จากการถูกสั่งปิดร้าน พนักงานบริการไม่มีประกันสังคมเข้าไม่ถึงเงินว่างงาน อีกทั้งรัฐมีคำสั่งให้ปิดสถานบริการก่อนจนถึงปัจจุบันยังไม่ได้เปิดแต่ไม่เยียวยาใดๆ รัฐบาลไม่มีแนวทางช่วยเหลือและแก้ปัญหาอย่างชัดเจนเสียงจากพนักงานบริการ เช่น"ไม่รู้จะได้กลับมาทำงานได้เมื่อไหร่ ไม่มีเงินเยียวยา ไม่รู้จะได้ฉีดวัคซีนเมื่อไหร่ เงินเก็บหมดไป หนี้สินเพิ่มพูน เป็นต้นเหล่านี้เห็นชัดว่าว่ารัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เลยซึ่งงานที่ผิดพลาดล่าช้าของรัฐบาล ไม่เพียงส่งผลระทบกับพนักงานบริการเท่านั้นแต่ยังส่งผลกระทบไปถึงครอบครัวของพนักงานบริการ พนักงานบริการ 80% เป็นหลักของครอบครัวซึ่งต้องดูแลคนข้างหลัง 

ทั้งนี้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 รัฐบาลมีคำสั่งให้ปิดสถานบริการทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2564 พนักงานบริการประสบปัญหาเงินเก็บหมดไป หนี้สินเพิ่มพูน ทางออกไม่มีและไม่ได้รับเงินเยียวยาเกิดผลกระทบหนักมากขึ้นต่อพนักงานบริการ หางานใหม่ไม่ได้เพราะภาคธุรกิจอื่นๆก็ไม่เปิดรับลูกจ้าง 

ซึ่งก่อนหน้านี้พนักงานบริการได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาลเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2564 โดยเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการเยียวยาพนักงานบริการเนื่องจากคำสั่งปิดสถานบริการตามมาตราการของภาครัฐเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาทต่อเดือนให้กับพนักงานบริการและคนทำงานในสถานบริการทุกคนจนกว่าสถานบริการจะกลับมาเปิดดำเนินกิจการได้ทั้งนี้รวมไปถึงคนทำงานในสถานบริการที่มีการจ้างงานชั่วคราวหรือรายครั้งและครอบคลุมถึงคนทำงานที่เป็นชาติพันธ์และแรงงานข้ามชาติ" 

จนถึงปัจจุบันเอ็มพาวเวอร์ได้รับหนังสืบตอบกลับฉบับเดียวเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 จากสำนักงานปลัดว่าสำนักนายกรัฐมนตรีได้ประสานส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแล้วซึ่งเวลาผ่านไปเป็นเดือน เอ็มพาวเอร์ได้พยายามติดตามสอบถามความคืบหน้ามาโดยตลอดแต่ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆจากทุกหน่วยงาน

ดังนั้นในครั้งนี้พนักงานบริการจึงมารวมตัวทำกิจกรรมโดยมีตัวแทนพนักงานบริการในสถานบริการ อาบอบนวด อะโกโก้ บาร์ คาราโอเกะ สปานวดและพนักงานบริการอิสระเล่าถึงปัญหาและข้อเรียกร้องที่มีให้รัฐบาลได้ฟังเสียงเรา รวมไปถึงรองเท้าส้นสูง รองเท้าที่ใส่ทำงานมาเป็นตัวแทนพนักงานบริการที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมได้เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และได้ทำกิจกรรมแขวนรองเท้าส้นสูงและชุดบิกินี่ไว้ที่บริเวณประตู3 ทำเนียบรัฐบาล แสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อติดตามทวงถามให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเยียวยาให้กับพนักงานบริการตามข้อเรียกร้องดังกล่าวโดยเร่งด่วนและมีแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม ทั้งเรื่องวัคซีน การเปิด-ปิด สถานบริการที่ชัดเจนโดยเร็วที่สุด

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ