ข่าว

"นายกฯ"สั่งจัดกำลังเร่งด่วนคุมเข้ม"แคมป์คนงาน"ใน กทม.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"นายกฯ"สั่งจัดกำลังเร่งด่วนคุมเข้ม"แคมป์คนงาน"ใน กทม.และปริมณฑล รวมทั้งการเคลื่อนย้ายของประชาชนใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ ด้านโฆษกรัฐบาลเผยรัฐบาลขอความร่วมมือ"ผู้ประกอบการ"คุมแคมป์คนงานไม่ให้กลับต่างจังหวัด

พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและพล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกลาโหม ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานกอ.รมน.หน่วยขึ้นตรงกลาโหม เหล่าทัพ และตำรวจ ผ่านระบบ VTC จากศาลาว่าการกลาโหม เพื่อสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาโควิด-19 โดยภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศรอบบ้านยังคงรุนแรงและน่ากังวลในมาเลเซีย เมียนมา และกัมพูชา พบการแพร่ระบาดและมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"โดยเฉพาะสถานการณ์การเมืองในเมียนมามีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้นส่งผลให้มีผู้หลบหนีข้ามแดนมายังไทยมากขึ้น สถิติการจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมือง ระหว่าง 19-23 มิ.ย. 64  จับกุมได้จำนวน 830 คน (เมียนมา 202 คน กัมพูชา 210 คน ลาว 85 คน คนไทย 155 คน และ ผู้นำพา 7 คน) ขณะที่ภายในประเทศ ยังคงพบการแพร่ระบาดต่อเนื่องโดยเฉพาะ กทม. และปริมณฑล พบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน เป็นระยะในพื้นที่เสี่ยง เช่น แคมป์คนงาน ตลาดสดและชุมชนแออัดในขณะที่ระบบสาธารณสุขเริ่มมีข้อจำกัดในการรับมือกับผู้ป่วยหนักหรือผู้ป่วยสีแดง"

พลเอกชัยชาญ ได้ย้ำนโยบายของนายกฯกับ กอ.รมน.ทุกเหล่าทัพและตำรวจขอให้เร่งเตรียมและบูรณาการกำลังสนับสนุนข้อกำหนดของ ศบค.ที่จะประกาศบังคับใช้เป็นมาตรการเฉพาะในกทม. ปริมณฑลและ 4 จังหวัดชายแดนใต้เพื่อจำกัดควบคุมโรคเฉพาะกลุ่มและกิจกรรมในพื้นที่เสี่ยงสูงอย่างเข้มงวดไม่ให้ขยายออกนอกพื้นที่จนไม่สามารถควบคุม

พร้อมย้ำสั่งการของนายกฯให้ประสานกับกทม.และทุกจังหวัดบูรณาการจัดกำลังเร่งด่วนร่วมกันเข้าไปสนับสนุนควบคุมจำกัดพื้นที่ทุกแคมป์และไซต์คนงานก่อสร้างเป้าหมายทั้งในกทม.และปริมณฑลที่พบการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนจำนวนมากทันทีโดยให้เร่งตรวจคัดกรองเชิงรุกและนำเข้าสู่ระบบการรักษาควบคุมโรคโดยเร็วรวมทั้งขอให้ขยายผลประชาสัมพันธ์ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเยียวยาค่าแรงรายวันระหว่างการควบคุมดังกล่าวทั้งนี้ขอให้ทุกเหล่าทัพจัดรถครัวสนามพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคจำเป็น สนับสนุนทุกชุมชนและคลัสเตอร์ที่เข้าไปควบคุมการปฏิบัติไปพร้อมๆกัน

สำหรับพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ สงขลา ยะลา นราธิวาส และปัตตานีให้จัดกำลังสนับสนุนจังหวัด ควบคุมจำกัดการเคลื่อนย้ายของประชาชนข้ามเขตเพื่อหยุดการกระจายเชื้อสายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่กำลังแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในมาเลเซียเข้าไทยซึ่งปัจจุบันพบการติดเชื้อกับประชาชนใน 4 จังหวัดแล้ว โดยมีการเชื่อมโยงแพร่เชื้อข้ามเขตผ่านการเคลื่อนย้ายของประชาชนไปมาจึงให้จัดตั้งด่านตรวจร่วม กวดขันและจำกัดไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานเป็นกลุ่มก้อนข้ามเขต และประชาชนในพื้นที่กำหนด จนกว่าจะมีมาตรการผ่อนคลาย

นอกจากนี้ขอให้ทุกเหล่าทัพประสานทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิดเร่งเข้าไปเสริมและสนับสนุนแก้ปัญหาเร่งด่วนในการขาดแคลนเตียงผู้ป่วยสีแดง โดยให้พิจารณาขยายขีดความสามารถสูงสุดของโรงพยาบาลทหารในสังกัดเพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยห้อง ICU รองรับสถานการณ์และให้เตรียมการสนับสนุนหากจำเป็นต้องจัดสร้างห้องผู้ป่วยความดันลบเพิ่มเติมโดยให้พิจารณาบูรณาการบุคลากรทางการแพทย์ร่วมกันกับทุกหน่วยงาน   

พลเอกชัยชาญ ยังได้ย้ำขอให้กองกำลังป้องกันชายแดน ทหารและตำรวจ ยังคงต้องเพิ่มความเข้มงวดกวดขันมาตรการเดินทางเข้าออกราชอาณาจักรและเพิ่มความถี่เฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายโดยเฉพาะชายแดน มาเลเซีย กัมพูชา และเมียนมา โดยให้เพ่งเล็งคนไทยที่ลักลอบข้ามแดนไปมากับบ่อนพนันและสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดนและการคงเข้มมาตรการควบคุมโรคควบคู่กันไป

“โฆษกรัฐบาล”ขอความร่วมมือผู้ประกอบการหลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายแรงงานโดยเด็ดขาด 

ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.ได้มีการประชุมคณะที่ปรึกษาด้านการสาธารณสุขในศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมาและได้รับฟังรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในครั้งนี้ ซึ่งที่ประชุมฯ มีความห่วงใยกลุ่มคลัสเตอร์ที่เกิดขึ้นในแคมป์ที่พักคนงานต่างๆที่มีการเดินทางจากแคมป์ที่พักอาศัยไปสู่สถานที่ก่อสร้าง โดยเฉพาะในพื้นที่กทม.และปริมณฑลรวมถึง4 จังหวัดภาคใต้ คือ จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา

จึงมีมติให้ปิดแคมป์คนงานเหล่านี้เป็นการชั่วคราวเพื่อระงับการแพร่ระบาดโดยมอบหมายให้กระทรวงแรงงานดูแลค่าใช้จ่าย เงินค่าจ้างชดเชย ให้แก่ลูกจ้างแทนผู้ประกอบการในช่วงที่มีการประกาศปิด 1 เดือนแต่คนงานจะต้องอยู่ในพื้นที่ที่จำกัดไว้เนื่องจากที่ผ่านมาแคมป์คนงานก่อสร้างเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อที่พิสูจน์ทราบได้โดยกระทรวงแรงงานจะเข้าตรวจสอบเช็กชื่อคนงานทุกวันเพื่อทำบัญชีค่าจ้างร่วมกับตัวแทนนายจ้างหากลูกจ้างคนใดไม่อยู่ในแคมป์ ก็จะพิจารณาอีกทีเป็นรายๆ ไปเพราะการจ่ายค่าจ้างนั้นอยู่ที่นายจ้างต้องรับรองด้วย

นายอนุชา กล่าวว่า นอกจากนี้กระทรวงแรงงานจะประสานกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อลงไปในพื้นที่และพบกับผู้ประกอบการเพื่อทำความเข้าใจและชี้แจงมาตรการความช่วยเหลือจากรัฐบาลพร้อมกับขอความร่วมมือในการงดการเคลื่อนย้ายแรงงานทั้งหมดในเวลานี้โดยในช่วงที่ปิดแคมป์กระทรวงแรงงานจะมีมาตรการเยียวยาให้ร้อยละ 50 ของค่าจ้างซึ่งเป็นการชดเชยเยียวยากรณีว่างงานเพราะเหตุสุดวิสัยเนื่องจากถูกปิดตามคำสั่งศบค.

ซึ่งในเบื้องต้นกระทรวงแรงงานมีแผนที่จะทำรายการจ่ายเงินสดให้คนงานที่แคมป์ทุกๆ5 วันตลอดช่วง1 เดือน ตามรายชื่อที่นายจ้างรับรองวันต่อวันตลอดระยะเวลาที่มีการปิดแคมป์ดังกล่าวซึ่งกระทรวงแรงงานจะมีระบบตรวจสอบว่าแรงงานที่จะได้รับการเยียวยานั้นจะต้องอยู่ในแคมป์จริงๆ

โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ทั้งนี้กระทรวงแรงงานจะลงไปตรวจโควิด-19 เชิงรุกทุกแคมป์ที่ปิดและหากแคมป์ใดถือว่าปลอดภัยแล้วและได้รับวัคซีนในส่วน ม.33 แล้วรวมถึงคณะกรรมการร่วมระหว่างกระทรวงแรงงาน ผู้ว่าราชการจังหวัด และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) ตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัยจะดำเนินการปลดล็อกให้แคมป์นั้นกลับมาเปิดได้โดยเร็วที่สุดและอาจไม่ต้องรอให้ครบ1 เดือนขณะที่โครงการใดที่มีสัญญากับรัฐหรือเอกชนจะมีการขยายระยะเวลาสัญญาให้ในช่วงที่แรงงานต้องหยุดการทำงานทั้งหมด

นายอนุชา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในช่วงที่ปิดแคมป์คนงานขอความร่วมมือผู้ประกอบการหลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายแรงงานโดยเด็ดขาดและไม่ให้คนงานเดินทางกลับต่างจังหวัดโดยหน่วยงานของรัฐจะเข้าไปดูแลเรื่องอาหารและความเป็นอยู่ให้เรียบร้อยอย่างไรก็ตามเพื่อความมั่นใจของพี่น้องประชาชน กระทรวงแรงงานและผู้ว่าราชการจังหวัดดังกล่าวจะทำการขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงเข้าไปดูแลเฝ้าระวังพร้อมทั้งดูแลความปลอดภัยเพิ่มเติมในแต่ละแคมป์เพื่อดูความเรียบร้อยในช่วงเวลา 1 เดือนนี้ด้วย

นายอนุชา กล่าวว่าจากสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในกทม.และปริมณฑลมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลโดยศบค.จึงขอให้แต่ละจังหวัดเตรียมการเฝ้าระวังป้องกันและมุ่งเน้นการควบคุมโรคในระดับสูงรวมถึงแจ้งเตือนให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.)และเจ้าหน้าที่ในระดับพื้นที่เฝ้าระวังบุคคลที่ไปจากกทม.และจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดสูงโดยพิจารณาเรื่องการ Quarantine อย่างเหมาะสมและเน้นการคัดกรองในกลุ่มเสี่ยงและคนที่มาจากจังหวัดอื่นหากพบการติดเชื้อให้เร่งคัดกรอง ควบคุมและรักษาโดยเร็ว

“ขณะที่ในส่วนของโรงงานในพื้นที่กทม.และปริมณฑลและ 4 จังหวัดภาคใต้จ.ปัตตานี ยะลา สงขลา นราธิวาส ยังคงสามารถประกอบการได้ตามปกติแต่ต้องมีการ Bubble & Sealรวมทั้งจะพิจารณากิจการที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรค ซึ่งไม่เป็นการปิดทั้งหมดแต่จะมีมาตรการเฉพาะออกมาเป็นการชั่วคราวโดยรัฐบาลจะดูแลเป็นพิเศษทั้งหมดทุกกิจการ ทุกพื้นที่และทุกคลัสเตอร์”นายอนุชากล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ