11 ชั่วโมงแห่งการตามไล่ล่า คนร้าย "อดีตทหารเกณฑ์" คลั่งกราดยิงพนักงานร้านสะดวกซื้อและผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต ตำรวจระดมทีมสืบสวนตามปิดคดี
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ในการติดตามตัว นายกวิน อายุ 23 ปี อดีตทหารเกณฑ์ปลดประจำการ ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงประชาชนเสียชีวิต 2 ศพ ในพื้นที่สน.พหลโยธิน และ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี
เหตุการณ์ยิงสองศพเกิดขึ้นตั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา กลายเป็นข่าวใหญ่ทั้งโลกออนไลน์ และ ตามหน้าสื่อต่าง ๆ เนื่องด้วยพฤติกรรมที่เลือดเย็นยิงเหยื่อที่ไม่ได้มีความแค้นเป็นการส่วนตัว ซึ่งทำให้หลายคนหวั่นจะเหมือนเหตุการณ์กราดยิงที่ห้างสรรพสินค้า จ.นครราชสีมา หรือ กรณีชิงทรัพย์ร้านทองภายในห้างจ.ลพบุรี
สำหรับเหตุการณ์นี้ชนวนเหตุสำคัญเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณสี่ทุ่มของคืนวันที่ 23 มิถุนายน นาย กวิน เข้าไปซื้อเบียร์ที่ร้านสะดวกแห่งหนึ่งใกล้ปากซอยลาดพร้าว 25 ขณะที่กำลังหยิบขวดเบียร์นั้นเกิดทำขวดหลุดมือแตก ต่อมาได้หยิบขวดเบียร์ใหม่เดินมาจ่านเงินที่เคาท์เตอร์
ทางนายกวินจะจ่ายเงินแค่ขวดที่ซื้อ ส่วนขวดที่แต่จะไม่ยอมจ่ายเงิน ซึ่งทางพนักงานร้าน คือ นายรัฐวิทย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ได้บอกให้นายกวินจ่านเงินขวดที่แตกด้วย จนกลายเป็นประเด็นมีปากเสียงกัน และสุดท้ายนายกวินยอมจ่ายเงิน ก่อนเดินออกจากร้านไป
ต่อมาเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 24 มิถุนายน นายกวิน ย้อนกลับมาที่ร้านสะดวกซื้อแห่งนี้อีกครั้ง ก่อนจะตามหา นายรัฐวิทย์ ที่เพิ่งมีปากเสียงกันไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมง เมื่อพบตัวนายรัฐวิทย์ ก็ชักปืนกระหน่ำยิง 3 นัดซ้อน มิหนำซ้ำก่อนจะจากไปยังเดินเอาไปกระทืบที่ศพของนายรัฐวิทย์ อีกด้วย
จากนั้นคนร้ายได้เดินออกจากร้านไปอย่างเลือดเย็น ค่อย ๆ เดินไปที่รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดี แม็ก สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 ฒข 6233 ขับออกไปจากที่เกิดเหตุ ทิ้งความโกลาหลไว้ภายในร้านสะดวกซื้อแห่งนี้ โดยมีตำรวจสน.พหลโยธิน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ร้านสะดวกซื้อลาดพร้าว25 ยังไม่ทันจางหาย เหตุร้ายใหม่ก็ผุดขึ้นอีก ในช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. หรือประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่า ๆ นายกวิน มือสังหารเลือดเย็นรายนี้ที่ได้ขับรถออกไปจากร้านสะดวกซื้อมุ่งหน้าไปยังสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งปัจจุบันถูกจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนาม
นายกวิน ในเสื้อลายพรางทหาร สวมหมวกเบเรต์สีเลือดหมูคล้ายหน่วยงรบพิเศษ เดินดุ่ม ๆ เข้าไปที่โรงพยาบาลสนามแห่งนี้ โดยนายกวินเดินเข้าไปในโซนสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นโซนหวงห้าม ในช่วงนาทีที่กำลังเดินอยู่นั้นเอง ผู้ป่วยโควิด-19 เดินออกมาเข้าห้องน้ำ เจอเข้ากับนายกวิน โดยไม่ทราบนี้เป็นนาทีสำคัญ นายกวิน ชักปืนจ่อคนไข้วัย 54 ปี รายนี้ ก่อนกด 5 นัดซ้อน จนนอนจมกองเลือดเสียชีวิตทันที
หลังจากยิงศพที่สองเสร็จแล้ว นายกวินเดินกลับออกมาเพื่อที่จะขึ้นรถ แต่ยังไม่หนำใจ ยังใช้ปืนยิงประตูกระจกจนแตก แล้วเดินออกมาด้วยท่าทางเหมือนคนสติหลุด โดยเขาเดินอย่างใจเย็นที่สุด ไปขึ้นรถยนต์คู่กายคันเดิม
นายกวิน ขับรถออกไปวิ่งไปตามถนนเพชรเกษม ลงไปสู่จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร โดยมีจุดมุ่งหมายที่ จ.ระนอง ซึ่งเป็นบ้านญาติของเขา โดยขับผ่านด่านตรวจไปถึง 5 ด่าน อย่างสบาย จนกระทั่งไปถึงจ.ระนอง
ในห้วงเวลาเดียวกับที่นายกวินขับรถหนีนั้น ทางโรงพยาบาลที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เช็กภาพจากกล้องวงจรปิด พบรูปพรรณคนร้าย เหมือนกับคนร้ายที่ก่อเหตุยิงพนักงานร้านสะดวกซื้อในพื้นที่สน.พหลโยธิน จนสืบทราบเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเป็นมือปืนคนเดียวกัน ทั้งรูปร่าง หน้าตา และรถที่ใช้หลบหนี
พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 ได้รับรายงานเหตุจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จึงได้ประสานไปยังหน่วยเหนือประสานมือสืบสวนลงมาติดตามคนร้ายรายนี้ทันที เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับที่จ.นครราชสีมา และ จ.ลพบุรี
รุ่งเช้าในวันนี้(24มิ.ย.) สถานีโทรทัศน์ วิทยุ รวมไปถึงสื่อออนไลน์เริ่มรายงานข่าวเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อคืน รวมไปถึงข่าวการไล่ล่าของเจ้าหน้าที่หลายหน่วย เช่น กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ชุดหนุมาน เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรภาค8 และทีมนักสืบชุดผสม
จนกระทั่งช่วงสาย ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่าได้ระดมกำลังพร้อมอาวุธครบมือล้อมบ้านหลังหนึ่ง ในจังหวัดระนอง ซึ่งมีข้อมูลว่าเป็นบ้านย่าของนายกวิน โดยย่าเป็นผู้ป่วยติดเตียง ระหว่างการปิดล้อมเจ้าหน้าที่มีการเจรจาอยู่หลายชั่วโมง นายกวินก็ไม่มีทีท่าว่าจะออกมา อีกทั้งยังยิงปืนสวนออกมา 3 นัด
ในห้วงเวลาต่อรองระหว่างนายกวินและตำรวจ ทางสำนักงานข่าวบางสำนักได้มีการติดต่อไปยังนายกวินผ่านทางออนไลน์ โดยมีการพูดคุยกับนายกวิน จนกลายเป็นประเด็นดราม่าเล็ก ๆ ในโลกออนไลน์ ว่าไม่เหมาะสม ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติออกมาบอกว่าไม่สมควร นอกจากนียังพบคนร้ายใช้โซเชียลมีเดียในระหว่างการเจรจา
เวลาผ่านไปยังไร้วี่แววการมอบตัว ตำรวจหลายหน่วยทยอยเติมกำลังกันเข้ามา ผู้สื่อข่าว เริ่มเดินทางมาเฝ้ารายงานเหตุการณ์ โดยทางตำรวจได้พยายามกั้นไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปเนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตรายและถูกลูกหลง
ขณะที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลเวลานั้นทราบตัวคนร้ายแล้วคือ นายกวิน ทางพนักงานสอบสวนสน.พหลได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับใน 2 ข้อหา คือ 1.ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และ 2.พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร โทษสูงสุดประหารชีวิต
จนกะทั่งเวลา 12.20 น. นายกวิน ส่งสัญญานออกมาถึงการยอมจำนนต่อการกดดัน ทางเจ้าหน้าที่จึงรีบเข้าไปเข้าชาร์จทันที พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนได้ 2 กระบอก ก่อนคุมตัวไปสอบสวน โดยมี "บิ๊กใหม่" พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร บินด่วนลงไปสอบปากคำด้วยตนเอง
นายกวิน สารภาพกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยเหตุแรกที่ร้านสะดวกซื้อด้วยความไม่พอใจเรื่องจ่ายเงินค่าเบียร์ที่ขวดแตก ส่วนอีกเหตุที่โรงพยาบาลยอมรับว่าลงมือจริง
ภายหลังการสอบสวนในเบื้องต้นแล้วเสร็จเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายกวิน มาสอบสวนต่ออีกครั้งที่สน.พหลโยธิน ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุครั้งแรก
ทั้งหมดเป็นไทม์ไลน์สรุปเหตุการณ์สลดเมื่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องมาเสียชีวิตให้กับอารมณ์ชั่ววูบของอดีตทหารเกณฑ์รายนี้
นอกจากนี้ยังต้องชื่นชมการทำงานของเหล่านักสืบที่รวมแรงกันคลี่คลายไล่ล่าจนสามารถจับคนร้ายได้โดยไม่มีฝ่ายไหนต้องเสียเลือดเสียเนื้อ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง