แฮชแท็ก "ไทยเบฟ" อันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์ จากดราม่าร้อนขอวัคซีนให้พนักงาน-ครอบครัวพนักงาน กว่า 7 หมื่นคน ขณะที่ชาวเน็ตเดือดปุดแห่ตั้งคำถามถึงการจัดสรรวัคซีน ด้าน ปลัดมท. แจงยิบปมเอกสารสั่งผู้ว่าฯทั่วประเทศ
จากกรณีมีการแชร์ภาพหนังสือด่วนที่สุดของของกระทรวงมหาดไทย ส่งถึงผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ให้สนับสนุนวัคซีนโควิด19 ให้กับพนักงานและครอบครัวพนักงานของบริษัทไทยเบฟ จำนวนกว่า 7 หมื่นโดส จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนทั้งประเทศว่าเหมาะสมหรือไม่ที่หน่วยงานราชการจะต้องดูแลเอกชนรายใดรายหนึ่งเป็นพิเศษ จนทำให้เกิดแฮชแท็ก #ไทยเบฟ ขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์ในวันนี้(20 มิ.ย. 2564)
โดยชาวเน็ตในโลกทวิตเตอร์ต่างพากันตั้งคำถามถึงความเหมาะสมกรณีหนังสือด่วนที่สุดของกระทรวงมหาดไทย ที่ส่งถึงผู้ว่าราชการทุกจังหวัดให้สนับสนุนวัคซีนโควิดให้กับพนักงานและครอบครัวของ #ไทยเบฟ ว่าการจัดสรรวัคซีนควรเป็นไปอย่างยุติธรรมและเท่าเทียม ไม่ควรเทวัคซีนไปที่องค์กรหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ขณะที่ประชาชนหลายคนยังคงถูกเลื่อนฉีดและรอวัคซีนอยู่อีกมาก
ซึ่งก่อนหน้านี้ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (ปลัด มท.) ในฐานะผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ชี้แจงว่า
"การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ในเรื่องการจัดหาวัคซีนปูพรมทั่วประเทศโดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงและระบาด ซึ่งที่ผ่านมามีทั้งส่วนราชการ เอกชน และสมาคม รวมถึงสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ทำหนังสือผ่านสำนักเลขา ศบค. คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ขอให้จัดหาวัคซีนไปฉีดให้บุคลากรเพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นคลัสเตอร์และติดเชื้อแพร่ระบาดทั่วประเทศ ยืนยันว่าหนังสือฉบับดังกล่าวไม่มีการเลือกปฏิบัติ
โดยประกาศแนวทางของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ลงวันที่ 18 พ.ค.64 ได้เปิดโอกาสให้องค์กรภาครัฐและเอกชนในประเทศไทยแจ้งความประสงค์ขอรับวัคซีนให้กับบุคลากรในสังกัด ซึ่ง ศบค.มท.ได้แจ้งขอรับการสนับสนุนไปยังกระทรวงสาธารณสุข และปัจจุบันยังมีองค์กรภาครัฐและเอกชนขอรับการสนับสนุนวัคซีนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยเน้นย้ำให้ทุกจังหวัดดำเนินการตามมติและแนวทางของ ศบค.อย่างเคร่งครัด"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง