เปิบ "เห็ดพิษ" พิสดาร หาม 8 ชาวบ้าน อาการร่อแร่

โรงพยาบาลน่าน ส่งทีม SRRTสอบสวนโรคพื้นที่อำเภอเวียงสา หลังชาวบ้าน 8 ราย กิน "เห็ดพิษ" จนต้องหามส่งโรงพยาบาล เตือนประชาชน ให้ระวังอย่ากินเห็ดที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะเห็ดระโงกหิน หรือโม่งโก้งตีนตัน ที่มีลักษณะคล้ายเห็ดไข่ห่าน

 

               

 

 

พญ.อัจฉรา ละอองนวลพานิช ผอ.รพ.น่าน เปิดเผยว่า รพ.น่าน ได้ส่งทีมสอบสวนโรคโรงพยาบาลน่าน และทีมสอบสวนโรคโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาเหลือง เข้าพื้นที่ บ้านห้วยม่วง หมู่ที่ 2 ตำบลนาเหลือง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน เพื่อทำการสอบสวนโรค

 

กรณีมีผู้ป่วยจำนวน 8 ราย กิน "เห็ดพิษ" โดยในจำนวนผู้ป่วย 1 ราย มีเด็กอายุ 2 ขวบ ซึ่งกินนมจากแม่ที่กินเห็ดพิษ มีอาการรับพิษด้วย โดยมีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ ถ่ายเหลว ใจสั่น เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา 

 

โดยมอบหมายให้ นพ.พงษ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รอง.ผอ.รพ.น่าน เข้าสอบสวนโรค ส่ง ทีม SRRTสอบสวนโรคโรงพยาบาลน่าน รวมกับทีมSRRT สอบสวนโรคโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาเหลือง ทำการสอบสวนโรค พบผู้ป่วยสงสัยกินเห็ดพิษ (ลักษณะคล้ายเห็ดถั่ว) นำมาแกงเห็ดเป็นอาหาร จำนวน 8 ราย

 

มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านห้วยม่วง หมู่ที่ 2 ตำบลนาเหลือง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน พบผู้ป่วย 8 รายและเด็กอายุ 2 ขวบ ที่ได้รับพิษจากดูดนมแม่ที่กินเห็ดพิษ เป็น ชาย 4 คน อายุ 70,66,49,และ 26 ปี หญิง 4 คน อายุ 66,32,24,และเด็กหญิง อายุ 2 ขวบ ที่กินนมแม่ผู้ป่วย อายุ 24 ปี

 

ด้าน นายแพทย์พงษ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลน่าน เปิดเผยข้อมูลว่า มีผู้ป่วย 8 ราย ถูกส่งต่อมารักษาตัวที่โรงพยาบาลน่าน มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ถ่ายเหลว ใจสั่น เวียนหัว สาเหตุเกิดจากกลุ่มคนดังกล่าวได้กิน "เห็ดพิษ" 

 

 

 

 

 

จากการสอบถาม ทราบว่า ขณะชาวบ้านที่เดินทางไปกรีดยางในพื้นที่ พบเห็ดขึ้นอยู่จำนวนมาก จึงได้เก็บกลับมา เพื่อนำไปปรุงอาหาร โดยได้ไปสอบถามยายข้างบ้าน ว่าเห็ดแบบนี้กินได้หรือไม่ ซึ่งยายได้ให้ข้อมูลว่า สามารถกินได้ แต่อาจเป็นไปได้ว่า ทางคุณยายไม่ได้สังเกตุโดยละเอียด ทำให้ผู้ป่วยนำมาต้มแกง แล้วนำไปแบ่งปันให้เพื่อนบ้านกินด้วย ปรากฏว่า เกิดอาการป่วยจำนวน 8 ราย ทั้งพ่อแม่ลูก รวมทั้งเด็กที่ไม่ได้ทาน แต่ดื่มนมจากอกแม่ ก็ได้รับพิษจากผลข้างเคียงเช่นกัน

 

ทั้งนีี้ จึงขอฝากเตือนว่า เห็ดจริงๆ แล้วมีหลายชนิดหลายสายพันธุ์ บางทีอาจมีลักษณะคล้ายกันมาก จึงอาจทำให้เกิดการสับสน ทำให้แยกไม่ออกเก็บมาผสมรวมกัน เห็ดที่น่ากลัวในพื้นที่คือเห็ดโม่งโก้งตีนตัน โดยพิษของเห็ดชนิดนี้ จะทำลายระบบการทำงานของอวัยวะภายใน ทำให้ตับวาย จนทำให้เกิดการเสียชีวิตได้ แต่เห็ดบางชนิดอาจจะทำให้ผู้รับประทานเกิดอาการท้องเสีย เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน เหมือนในกรณีนี้

 

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ป่วยทั้ง 8 ราย ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว และแพทย์ได้อนุญาตให้ผู้ป่วยกลับไปพักฟื้นตัวต่อที่บ้านได้ แต่ของฝากเน้นย้ำเตือนว่า ถ้าท่านจะไปเก็บเห็ด แนะนำว่าจำเป็นจะต้องเป็นคนที่มีความรู้พอสมควร ว่าเห็ดชนิดไหนกินได้หรือกินไม่ได้

 

และขอแนะนำให้รับประทานเฉพาะเห็ดที่มีความคุ้นชิน ที่กินกันประจำ หรือเห็ดที่เพาะขึ้นมา จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ หรือเพาะเลี้ยงสปอร์ที่แยกออกมาเอาไว้แล้ว ก็จะปลอดภัย อย่างไรก็ดีหน้าฝน ในพื้นที่ ในป่า ในเขาต่างๆ คนไปหาของป่าไปเก็บเห็ดต่างๆ ขอให้ระมัดระวัง เพราะ "เห็ดพิษ" อันตรายจนทำให้อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้