ข่าว

10 คน รุมเตะคนแก่ "ลุงไสว" แจ้งจับ แก๊งวัยรุ่นเมืองนนท์แล้ว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ลุงไสว" แจ้งความจับ แก๊งวัยรุ่น 10 คน ที่ก่อเหตุรุมทำร้าย ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี แล้ว

จากกรณีมีผู้โพสต์จากภาพกล้องวงจรปิด กลุ่มวัยรุ่นกำลังรุมทำร้ายชายสูงอายุ "ลุงไสว" เหตุเกิดในช่วงเวลา 00.00 น. ของวันที่ 14 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา บริเวนศาลาริมเขื่อนวัดเขมาภิรตาราม ถ.พิบูลสงคราม อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งต่อมาทางโลกโซเชี่ยล ได้เข้ามาตำนิถึงพฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

 

 

 

 

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 18 มิถุนายน 64 นายไสว งามเนตร อายุ 52 ปี หรือ "ลุงไสว" เจ้าของร้านตัดผมไสวบาร์เบอร์ และเป็นชายที่ถูกรุมทำร้ายในคลิป ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.วนัสชัย ยิ่งยงสมสวัสดิ์ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นที่รุมทำร้าย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมกันก่อเหตุ

 

นายไสว กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นช่วงกลางดึกของวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา ตนได้ไปนั่งที่บริเวณริมเขื่อนท่าน้ำวัดเขมาภิรตาราม เนื่องจากคิดถึงลูกชายที่เสียชีวิต จากถูกรุมทำร้ายเมื่อปี 59  ซึ่งตนได้นำกระดูกของลูกชาย มาลอยอังคารที่ตรงบริเวณนี้ ทุกครั้งที่ตนคิดถึงลูกชาย ก็จะมานั่งตรงนี้เป็นประจำ

 

วันเกิดเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นเกือบ 10 คน เดินเข้ามาหาเรื่อง ตนเห็นว่าเป็นลูกหลานของคนรู้จัก ก็เลยบอกไปว่า “พ่อเอ็งเป็นรุ่นน้องของลุง” แต่กลุ่มวัยรุ่นได้ยินว่า เป็นลูกน้องก็เลยไม่พอใจ เข้ามารุมทำร้าย ตนเห็นท่าไม่ดี จึงพยายามอธิบาย พร้อมทั้งยกมือไหว้ขอโทษ แต่กลุ่มวัยรุ่นก็ไม่ยอมกลับลงมือทำร้ายจนสลบไป

 

โดยกลุ่มคนที่ทำร้ายพยายามจะเอาแหวนรุ่นของลูกชาย ซึ่งเป็นสิ่งของแทนใจที่เก็บไว้ดูหลังลูกชายเสียชีวิต ก่อนที่มีเพื่อนในกลุ่มมาห้ามพร้อมทั้งเอาแหวนมาคืนให้กับตน ก่อนที่จะพาซ้อนท้ายรถจยย.มาส่งที่ร้านตัดผม ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้ติดใจจะเอาเรื่องราว แต่พอมาดูคลิปเหตุการณ์จึงได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นเพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก

 

 

 

 

พ.ต.อ.วนัสชัย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากไวยาวัจกรณ์ของวัด เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บริเวณริมเขื่อนจำนวน 2 ตัวได้ถูกทุบทำลายโยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา จึงส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาตัวคนก่อเหตุ โดยดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ ก่อนจะเรียกตัวผู้ปกครองและเด็กที่ก่อเหตุเข้ามาพบ

 

เบื้องต้นเด็กที่ก่อเหตุยอมรับว่า เป็นคนที่ทุบทำร้ายกล้องวงจรปิดของทางวัดจริง หลังรวมกันรุมทำร้ายนายไสว แล้วกลัวความผิด ซึ่งทางผู้ปกครองของเด็ก ก็ยอมชดใช้ค่ากล้องวงจรปิดให้กับทางวัด ส่วนวัยรุ่นที่ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ได้พูดคุยกับผู้ปกครอง ว่าต้องมีมาตรการในการให้เด็กไปทำสาธารณะประโยชน์ เพื่อจะได้ไม่ไปก่อเหตุอีก

 

 

ซึ่งตอนนั้นนายไสว หรือ "ลุงไสว" ยังไม่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่น ที่รุมทำร้าย แต่เมื่อนายไสว เข้าแจ้งความดำเนินคดีในวันนี้ ก็ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย เบื้องต้นจะเรียกเด็กวัยรุ่นทั้งหมดมาสอบปากคำ พร้อมเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพก่อนจะแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น

 

จากการพูดคุยกับกลุ่มวัยรุ่น ที่อยู่ในเหตุการณ์ และคอยห้ามคนที่ก่อเหตุไม่ให้ทำร้ายนายไสว หรือ "ลุงไสว" ทราบว่า  วันเกิดเหตุพวกตนได้ไปนั่งเล่นกันที่ริมเขื่อนกันตามปกติ กระทั่งนายอาร์ม (นามสมมุติ) วัยรุ่นที่สวมเสื้อแดง และเป็นรุ่นพี่ของพวกตน ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา ได้เดินเข้าไปหาเรื่องลุง โดยอ้างว่าลุงพูดจาหาเรื่อง ก่อนที่นายอาร์ม จะพยายามดึงแหวนรุ่นของลูกชายของลุง ที่เสียชีวิตไปแล้ว จากมือของ "ลุงไสว"

 

แต่ลุงไม่ยอมให้ ทำให้นายอาร์มไม่พอใจ ลงมือต่อยไปที่ใบหน้าของลุงหลายครั้ง ก่อนที่รุ่นน้องที่ตามมาจะรุมทำร้ายลุงจนสลบ ซึ่งพวกตนได้พยายามห้ามปรามแล้ว แต่นายอาร์ม ไม่ยอมฟัง แถมขู่จะทำร้ายพวกตนด้วย หลังลุงสลบไปตนได้ไปเอาแหวนจากนายอาร์ม มาคืนให้กับลุง ก่อนจะพาลุงซ้อน รถจยย.ไปส่งที่ร้านตัดผม แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน จนกระทั่งได้ข่าวว่า ตำรวจตามหาตัวกลุ่มพวกตน จึงตัดสินใจเข้ามอบตัว

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ