เจาะลึก "ผลข้างเคียงวัคซีน โควิด-19" ฉีดหรือไม่ฉีดชนิดไหนดีกว่ากัน

เกาะติดสถานการณ์วิกฤติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) ระลอกใหม่ ในประเทศ ที่จำนวนผู้ป่วยยืนยันรายวันยังคงพุ่งสูง รวมถึงมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยการฉีดวัคซีน โควิด-19 ถูกดันเป็นวาระแห่งชาติ ขณะที่ยี่ห้อวัคซีนและผลข้างเคียงยังเป็นที่ถกเถียง รวมถึงกระแสข่าวการเสียชีวิตหลังรับวัคซีนทำให้ หลายคนเกิดความสงสัย คำถามคาใจ กังวลในเรื่องของการฉีดวัคซีนว่า จะฉีดหรือไม่ฉีดดี ฉีดตัวไหนดี วันนี้ ผศ. นพ.ชนเมธ เตชะแสนศิริ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จะมาไขข้อข้องใจ

คำถามแรก : ฉีดหรือไม่ฉีดวัคซีน โควิด-19 ดี

ตอบ : ฉีดดีกว่า

เหตุผล : ประโยชน์ของวัคซีนเยอะมากเมื่อเทียบกับผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้

ได้ยินข่าวว่า ฉีดแล้วเสียชีวิต หัวใจวาย ฯลฯ

ผศ. นพ.ชนเมธ กล่าวถึงผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีนที่เจอบ่อย คือ ผลข้างเคียงเฉพาะที่ เช่น ฉีดตรงแขน ก็จะมีอาการปวด บวม แดงร้อน เป็นการอักเสบที่แขน ซึ่งพวกนี้หายภายใน 1 - 2 วัน บางคนอาจจะมีไข้ต่ำๆ ปวดเมื่อยตามตัว 1 - 2 วันก็หาย

ผศ. นพ.ชนเมธ กล่าวถึงผลข้างเคียงรุนแรงที่ได้ยินกัน แบบถึงขนาดหัวใจวาย เสียชีวิต ถ้าดูในรายละเอียดจะพบว่า ส่วนใหญ่มักจะมีโรคประจำตัวอย่างอื่นอยู่ก่อน หรืออาจจะเสียชีวิตจากโรคอื่น ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับวัคซีน แต่พอดีมีการฉีดวัคซีนเข้ามาเกี่ยวข้องพอดี ในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน

 

กับคำถาม : ควรเลือกฉีดวัคซีนชนิดไหน

ผศ. นพ.ชนเมธ ระบุ วัคซีนที่อยู่ในประเทศไทยตอนนี้ มี 2 ชนิด ได้แก่ 1. เป็นเชื้อตาย อาทิ ซิโนแวค เป็นการเอาไวรัสทั้งตัวมาแล้วทำให้ตาย แล้วมาสกัด ฉีดเป็นวัคซีน 2. วัคซีนที่ใช้ไวรัสชนิดอะดีโนมาเป็นพาหะ คือการเอาไวรัสอีกชนิดนึงมาแล้วติดสารพันธุกรรมบางส่วนของเชื้อ โควิด-19 เข้าไปที่อะดีโนไวรัสแล้วเอามาฉีด ทำให้ร่างกายเราเหมือนมองเห็นว่าเป็นไวรัสที่มีบางส่วนคล้ายๆ ไวรัสโควิด-19 ทำให้เราสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นต่อส่วนของไวรัสโควิด-19 ได้ จัดว่าเป็นวัคซีน เชื้อเป็น

ขณะที่ วัคซีน โควิด-19 ไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา ที่ยังไม่ได้เข้าประเทศไทยในปัจจุบันเป็น เอ็มอาร์เอ็นเอ วัคซีน เป็นวัคซีนที่เอาสารพันธุกรรมของเชื้อ โควิด-19 เฉพาะส่วนมาสังเคราะห์ทำเป็นวัคซีนฉีดเข้ามาในร่างกาย ทำให้เซลล์ร่างกายสร้างโปรตีน มีการสร้างภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นต่อโปรตีนชนิดนี้

 

ผลลัพธ์จากการฉีดวัคซีนแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันอย่างไร

ตอบ : โดยหลักการไม่ว่าจะเป็นวัคซีนชนิดใดก็ตาม ก็จะมีการสร้างโปรตีนขึ้น แล้วทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนนี้ เกิดการป้องกันการติดเชื้อ โควิด-19 ได้

"โดยส่วนตัวผมไม่แนะนำให้ไปเอาตัวเลขของการศึกษาวัคซีนแต่ละชนิดมาเทียบกัน อันไหนสูง อันไหนต่ำ อะไรอย่างนี้ อาจจะเทียบกันตรงๆ ไม่ได้ เพราะว่ามีความแตกต่างในวิธีการศึกษา ทั้งนี้ วัคซีนทุกตัวที่มีการอนุมัติออกมาให้ใช้ มีประสิทธิภาพที่ดีในการป้องกันโรคโควิด-19 ที่รุนแรง ลดอัตราการป่วยรุนแรง ลดอัตราการเข้าไอซียู ลดการเสียชีวิตได้"

คำถามที่เจอบ่อย "สายพันธุ์ที่กลายพันธุ์"

ตอบ : วัคซีน โควิด-19 แต่ละชนิดยังพอใช้ได้กับสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์ แต่ประสิทธิภาพอาจจะลดลงถ้าเทียบกับสายพันธุ์ต้นกำเนิด

คนที่เคยติดเชื้อ โควิด-19 สามารถฉีดวัคซีนได้ช่วงไหน

ตอบ : หลังติดเชื้อประมาณ 3 - 6 เดือน ภูมิคุ้มกันจะเริ่มลดลง มีรายงานว่าเกิดการติดเชื้อซ้ำขึ้นหลัง 3 เดือน ดังนั้น ควรเว้นระยะไว้หลัง 3 เดือน ค่อยมาฉีดวัคซีน โควิด-19

"การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีความสำคัญ เป็นประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากผลข้างเคียงของวัคซีน หรือเทียบกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อ โควิด-19 ของจริง วัคซีนปลอดภัยกว่ามาก ถ้าไม่ได้มีข้อห้ามในการรับวัคซีน ก็น่าจะไปรับวัคซีนป้องกัน โควิด-19" ผศ. นพ.ชนเมธ ฝากทิ้งท้าย

อ่านข่าว - 5 จังหวัดติดเชื้อ "โควิด-19" ภายในโรงงานมากที่สุด งัด 4 มาตรการเข้มประเมิน

CR : RAMA Channel