ข่าว

หยามกันชัดๆ เสียบ "ลูกปืน" ข่มขู่ ไม่พอใจเจ้าของที่ ไม่ยอมยกถนนให้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คนร้ายบุกตัดทำลายต้นมะละกอ พร้อมทั้งเสียบ "ลูกปืน" และวาดภาพอาวุธปืน ทิ้งเบอร์โทรไว้ ให้ดูต่างหน้า เพื่อข่มขู่หนุ่มเจ้าของศูนย์รวบรวมผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร หลังไม่ยอมยกถนนส่วนตัว ที่อยู่ภายในสวนให้เป็นที่สาธารณะ

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางแก้ว เข้าตรวจสอบภายในสวนของ นายปาน ซึ่งเปิดเป็นศูนย์รวบรวมผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ท้องที่หมู่ 3 ตำบลท่ามะเดื่อ อ.บางแก้ว จังหวัดพัทลุง หลังได้รับแจ้งจากนายสมชัย หนูนวล อายุ 40 ปี เจ้าของสวน ว่ามีผู้ไม่ประสงค์ดี มาตัดยอดต้นมะละกอ พร้อมนำ "ลูกปืน" กระสุนซองเบอร์ 12 มาเสียบไว้กับก้านมะละกอ และวาดภาพอาวุธปืนยาว ในกระดาษเอ 4 รวมทั้งเขียนเบอร์โทรศัพท์บนบิลค่าไฟฟ้า เสียบไว้ที่ต้นมะละกอในเชิงข่มขู่ โดยคนร้ายน่าจะฉวยโอกาสในช่วงกลางคืนที่นายสมชัย ฯ เจ้าของสวนกลับไปนอนที่บ้านพัก

 

 

 

นายสมชัย ฯ ระบุว่า ตนมาเจอ "ลูกปืน"ดังกล่าวในช่วงเย็น ขณะเดินไปสำรวจตนมะละกอในสวน และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตนและครอบครัว รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย และอยู่แบบหวาดระแวง ว่าจะเกิดอันตราย เนื่องจากไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร ทั้งที่ตนไม่ได้ประกอบธุรกิจที่จะไปขัดแย้ง หรือขัดผลประโยชน์กับใคร ในทางตรงกันข้ามธุรกิจของตนที่ทำคือ การรวมรวมผลผลิตในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ไม่ว่าจะเป็นกล้วยหอม สับปะรด สละ ส่งออกและส่งขายให้กับห้างต่างๆ ซึ่งถือเป็นการสร้างงานสร้างรายให้กับเกษตรกรในพื้นที่

 


นายสมชัยฯ บอกด้วยว่า ส่วนตัวแล้ว ไม่มีปัญหาขัดแย้งกับใคร จะมีเรื่องเดียวคือเรื่องเส้นทาง ซึ่งก่อนหน้านี้ช่วงเดือน มิถุนายน 2564 มีชาวบ้านในพื้นที่ อ้างว่าเป็นตัวแทนของเทศบาลตำบลบางแก้ว อ.บางแก้ว จังหวัดพัทลุง ได้เข้ามาให้ตนเองเซ็นเอกสารเพื่อยกเส้นทางให้ ซึ่งเป็นถนนส่วนบุคคลที่ตนตัดเข้ามาในสวนให้เป็นทางสาธารณะ

 

 

แต่ตนไม่ยอมเซ็น สาเหตุเพราะเส้นทางดังกล่าว ตนเองสร้างขึ้นในที่ดินเอกสารสิทธิ์ ที่ตนเองซื้อเมื่อ 3 ปี ก่อนในพื้นที่ 15 ไร่ เพื่อทำการเกษตร และเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ และศูนย์รวบรวมผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งลึกเข้าไปในพื้นที่ของตน มีบ้านชาวบ้านอยู่เพียง 1 หลัง แต่มีสวนสวนยางพาราของชาวบ้านในพื้นที่ ประมาณ 3- 4 ราย ซึ่งตนก็ไม่กีดกัน หรือห้ามมาให้ใช้เส้นทางดังกล่าว

 

 

สำหรับด้านหลังพื้นที่ ที่ตนซื้อไว้ มีถนนสาธารณะเส้นทางเดิมอยู่แล้ว และช่วงที่ตนยังไม่มาซื้อที่ดิน หรือช่วงที่ซื้อที่ดิน ปี สองปี แรก ก็ไม่เห็นว่าชาวบ้านจะเดือดร้อนเรื่องเส้นทาง เพราะเข้าใช้เส้นทางสาธารณะ ที่อยู่ด้านหลังที่ดินของตนสัญจรเข้าออก แต่พอตนซื้อที่ดิน พร้อมทำถนนบนที่ดินของตนเอง เพื่อให้รถขนส่งสินค้าทางการเกษตรเข้าออกสะดวก ทั้งที่เมื่อถนนพัง ตนก็ใช้เงินส่วนตัวในการซ่อมแซม

 

 

และสองริมถนนทางเข้าสวนของตน ประมาณ 100 เมตร ตนก็ได้อนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่เอาไว้ รวมทั้งสาคูที่อยู่ริมคูน้ำในพื้นที่ตนไว้ แล้วจู่ ๆ มีชาวบ้านในพื้นที่นำเอกสารมาแผ่นหนึ่ง แล้วมาบอกให้ตนเซ็นยกที่ดิน ที่ตนสร้างถนนเข้าสวนตนเป็นเส้นทางสาธารณะ โดยที่ก่อนหน้านี้ ทางเทศบาลก็ไม่ได้มีการสำรวจ หรือแจ้งให้ตนทราบเลยว่า จะมาใช้ถนนที่ตนสร้างบนที่ดินเอกสารสิทธิ์ของตน ซึ่งเป็นเส้นทางส่วนบุคคลเป็นเส้นทางสาธารณะ ในขณะที่ตนสงสัยว่า ทำไม "เทศบาล" ไม่ไปพัฒนาปรับปรุงเส้นทางสาธารณะเดิมที่มีอยู่ และหลังจากมีชาวบ้านมาเจรจากับตน และตนยืนกรานไม่ยกให้ ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

 


ทางด้าน พ.ต.อ.สุเชษฐ์ แก้วขาว ผกก.สภ.บางแก้ว ระบุว่า หลังรับแจ้งเหตุ เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยของผู้เสียหาย จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจ ลาดตระเวน ดูแลความปลอดภัยที่ศูนย์เรียนรู้บ่อยครั้งขึ้น รวมทั้งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน ได้เร่งขยายผลถึงปมเหตุ และติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งจากพฤติกรรมผู้ก่อเหตุ จะมีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ความผิดฐานทำให้ผู้อื่นตกใจเกิดความกลัว หรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ และความผิดเกี่ยวกับ พรบ.อาวุธปืน โดยเฉพาะ "ลูกปืน" ที่นำมาข่มขู่ 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ