ข่าว

"หมอมนูญ" ชี้โควิดไทยยังน่าห่วง ขยับขึ้นอันดับ 79 ของโลก ขออย่าลังเลฉีดวัคซีน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"หมอมนูญ" เผย "3 ตัวชี้วัด" สถานการณ์โควิดในแต่ละประเทศกำลังดีขึ้นหรือแย่ลง ย้ำไทยยังน่าห่วง ขยับขึ้นอันดับ 79 ของโลก

วันที่ 16 มิ.ย. 2564 นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความระบุว่า นักระบาดวิทยาใช้ 3 ตัวชี้วัด (Metrics) เพื่อบอกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในแต่ละประเทศกำลังดีขึ้นหรือแย่ลง

 

 

1. ตัวเลขคนติดเชื้อ ตัวเลขคนป่วยเข้านอนรักษาตัวในโรงพยาบาล และตัวเลขคนเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รายวัน ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2564 ตัวเลขคนติดเชื้อในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 173,000 ตัวเลขคนเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,390 ตัวเลขคนติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นวันละ 2-3 พัน และตัวเลขคนเสียชีวิตวันละ 20-40 

2. ตัวเลขอาร์ R 0 (R nought หรือ R zero) บ่งถึงอัตราการขยายเชื้อไวรัสโควิด-19 (reproduction rate) คนติดเชื้อ 1 คนจะแพร่กระจายเชื้อไปกี่คน ถ้าค่า R มากกว่า 1 จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ยังขยายตัวอยู่ ถ้าค่า R น้อยกว่า 1 จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่จะลดลงเรื่อยๆ การระบาดระลอก 3 ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ค่า R ของประเทศไทยประมาณ 1.6 ผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังขยายตัวต่อเนื่อง

3. ตัวเลขคนรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เมื่อคนได้รับวัคซีนเข็มแรกยิ่งมาก โอกาสที่โรคโควิด-19 จะหยุดการแพร่ระบาดยิ่งเป็นไปได้มาก ขณะนี้คนไทยเพิ่งได้รับวัคซีนเข็มแรก 4.7 ล้านคน (6.8 %) และครบสองเข็มเพียง 1.7 ล้านคน ประเทศไทยยังห่างไกลจาก 70% ของประชากรได้รับวัคซีนเข็มแรกเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่

 

\"หมอมนูญ\" ชี้โควิดไทยยังน่าห่วง ขยับขึ้นอันดับ 79 ของโลก ขออย่าลังเลฉีดวัคซีน

 

 

ทั้งนี้ หมอมนูญ ระบุเพิ่มเติมอีกว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ของประเทศไทยยังน่าเป็นห่วง อันดับของประเทศไทยขึ้นมาต่อเนื่อง ปัจจุบันขึ้นมาเป็นอันดับที่ 79 ของโลก

คนไทยต้องร่วมมือ ร่วมใจ เร่งฉีดวัคซีน รีบลงทะเบียน จองคิวฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้เร็วที่สุด อย่าลังเล อย่ารีรอ ผลข้างเคียงของวัคซีนน้อยมากๆเมื่อเทียบกับประโยชน์ของวัคซีน และขอให้สวมใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงอยู่ในสถานที่ปิด อากาศถ่ายเทไม่ดี ผู้คนแออัด และหมั่นล้างมือกันต่อไป

 

\"หมอมนูญ\" ชี้โควิดไทยยังน่าห่วง ขยับขึ้นอันดับ 79 ของโลก ขออย่าลังเลฉีดวัคซีน

 

ที่มา หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ