จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพพร้อมข้อความแสดงออกถึงการเปิดกว้างทางเพศ ถึงการบวชในพระพุทธศาสนา ล่าสุด พระพยอม ติง ปม "สังฆาฏิสีรุ้ง" จะมารื้อระบบธรรมวินัย ไม่ได้
เนื่องจากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพพร้อมข้อความแสดงออกถึงการเปิดกว้างทางเพศ กล่าวถึงการที่ทุกคนเป็นเพศอะไรนั้น ย่อมมีสิทธิเป็นชาวพุทธที่สามารถบวชได้ทุกคน โดยมีรูปภาพประกอบเป็นชายคนหนึ่งแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ที่แต่งจีวรตามปกติ แต่มีผ้า สังฆาฏิสีรุ้ง
โดยพระพยอมได้โพสต์คลิป ผ่านทางเพจ พระพยอม กัลยาโณ โดยระบุบางช่วงบางตอนถึงธรรมวินัยตามพระพุทธศาสนา หลังมีการแชร์ภาพพระสงฆ์ที่แต่งจีวรตามปกติ แต่มีผ้า สังฆาฏิสีรุ้ง
"มันไม่เหมาะสมกัน กับธรรมวินัย คุณจะมารื้อระบบธรรมวินัยเอาตามอำเภอใจในพุทธศาสนาไม่ใช่อำเภอใจ ว่าทิฐิเปลี่ยนไปหมถ้ายังมีทิฐิเป็นมิจฉาทิฐิอยู่ ก็ไม่ได้บวชจะเป็นผู้ชายก็ไม่ได้บวช ไม่ต้องเป็นกะเทย เป็นทอมคำว่าเป็นคนแหกคอก นอกระเบียบ แหกกฎ มันไม่มีดีหรอกคนไม่เหมือนกันแน่นอน รูปร่างหน้าตา แต่ความประพฤติต่ำสูง
ไม่เท่ากัน อย่ามาคิดอ้างส่งเดช"
นอกจากนี้เพจดังกล่าว ยังได้โพสต์แสดงความคิดเห็น เพิ่มเติมในเรื่องของการบวชโดยไม่จำกัดเพศเอาไว้ว่า
“ทุกคนต้องบวชได้ การบวชขึ้นอยู่กับศรัทธาไม่ใช่อวัยวะเพศ LGBTIQANsไม่ใช่กรรมการบวชเป็นภิกษุในพุทธศาสนามักมีการเปิดโอกาสให้เพศชายได้บวช แล้วกีดกันเพศอื่น ๆ เช่น กีดกันเพศหญิง กีดกันเลสเบี้ยน กีดกันเกย์ กีดกันกะเทย กีดกันบัณเฑาะก์ กีดกัน intersex ไม่ให้ได้บวชเหมือนเพศชาย ในประวัติศาสตร์ เพศหญิงไม่เคยถูกห้ามบวช การบวชหญิงได้รับพุทธานุญาตตามที่ปรากฏในพระไตรปิฎก แต่ต่อมาก็มีการห้ามบวชภิกษุณีเกิดขึ้นในภายหลังโดยนำเรื่องการขาดการบวชอย่างต่อเนื่องมาอ้าง
การบวชบัณเฑาะก์ก็มีในยุคแรก แต่ต่อมาก็ถูกห้ามบวชเพราะมีกลุ่มสงฆ์ไปขอให้พระพุทธเจ้างดการบวชให้คนกลุ่มนี้
เพียงเพราะคนกลุ่มนี้ทำผิดวินัย การห้ามบวชคนเพียงเพราะมีอวัยวะเพศที่แตกต่างจึงเป็นการเหมารวม ไม่ควรมีใครถูกเหมารวมโดยที่ยังมิได้ทำสิ่งใดผิด การบวชจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับอวัยวะเพศแต่การบวชขึ้นอยู่กับศรัทธา อย่านำข้อจำกัดด้านเพศมาเป็นเหตุของการห้ามบวช (ขอบคุณเนื้อหาจาก Shine Wara Dhammo ) แคมแปญ ทุกคนต้องบวชได้ ไม่ได้หมายความว่า ใครจะทำอะไรก็ได้ หรือ กะเทยจะได้อภิสิทธิ์เหนือกว่าคนอื่น เช่นกะเทยบวชแล้วจะแหกปาก แต่งตัวยังไงก็ได้ แต่ทุกคนต้องอยู่ในกฏเดียวกัน ใครทำผิดระเบียบก็ว่าไปตามผิดรายบุคคลไป
ขณะเดียวกัน สังฆาฏิ ตามหลักพระพุทธศาสนา คือ ผ้าซ้อนนอก, ผ้าทาบ เป็นชื่อเรียกผ้าผืนหนึ่งในจำนวน 3 ผืน หรือไตรจีวรของพระคือ จีวร สบง สังฆาฏิสังฆาฏิ คือผ้าที่ซ้อนทับจีวรอีกชั้นหนึ่งทำนองเป็นผ้าคลุมสำหรับป้องกันความหนาวในฤดูหนาว เมื่อห่มทาบจีวรก็จะเป็นผ้าสองชั้น ทำให้อบอุ่นขึ้นเมื่อห่ม จึงเรียกว่า ผ้าสังฆาฏิ (ผ้าซ้อน, ผ้าทาบ) อีกทั้งยังเป็นผ้าสารพัดประโยชน์ เช่น ห่มแทนจีวร ทำเป็นผ้ากันแดดได้ เป็นต้นในประเทศไทย สังฆาฏิ ปัจจุบันพระสงฆ์ไม่ได้ใช้ห่มซ้อนกับจีวรเหมือนก่อน ด้วยอยู่ในในถิ่นที่อากาศไม่หนาวจนเกินไป แต่พับแล้วพาดเก็บไว้บนบ่าเพื่อความสะดวกในเวลาเดินทาง จนกลายเป็นผ้าพาดบ่าตามปกติไป
ขอบคุณ : พระพยอม กลฺยาโณ , Wikipedia
ข่าวที่เกี่ยวข้อง