ข่าว

ต่อลมหายใจร้านอาหาร เปิดตัวโครงการ "จับคู่กู้เงิน" 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ภายใต้โควิดระลอก3 รัฐบาลโชว์ตัวเลขจ้างงานในระบบดีขึ้นต่อเนื่อง ดันต่อSMEเข้าถึงสภาพคล่อง คิวต่อไปร้านอาหาร เปิดตัว โครงการ "จับคู่กู้เงิน"

     เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2564 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า  ที่ผ่านมาภาครัฐได้ออกมาตรการเพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ประกอบการในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อประคับประคองธุรกิจให้ดำเนินต่อไปได้ โดยเฉพาะการเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ 

     ซึ่งยอดการให้ความช่วยเหลือจากมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19  ยอด ณ วันที่ 31 พ.ค. มีที่อนุมัติแล้วทั้งสิ้น 20,839 ล้านบาท  และในวันพรุ่งนี้ ( 7 มิ.ย.)นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เตรียมเปิดโครงการ “จับคู่กู้เงิน”     

     โดย โครงการ “จับคู่กู้เงิน” เป็นการประสานสถาบันการเงินเพื่อปล่อยกู้สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารและภัตตาคาร ที่มีอยู่กว่าแสนแห่งทั่วประเทศ  เป็นกรณีพิเศษ เช่นดอกเบี้ยต่ำและเงื่อนไขพิเศษ เพื่อให้ร้านอาหารเข้าถึงสภาพคล่อง ต่อลมหายใจให้ดำเนินธุรกิจต่อไปโดยไม่ต้องปลดลูกจ้าง

     นางสาวรัชดา ยังเปิดเผยถึงสถานการณ์การจ้างงานแรงงานในระบบว่า ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดีขึ้น ดังเห็นได้จากตัวเลขผู้ประกันตนที่ว่างงานในแต่ละเดือนลดลง ต่อเนื่องนับจากต้นปี 64  กล่าวคือ เดือนม.ค.มี 95,213 ราย  เม.ย. 49,277 ราย และ ณ วันที่ 19 พ.ค.  12,451 ราย 

     ในขณะที่มีผู้ประกันตนรายใหม่เพิ่มขึ้น เดือนม.ค.มี 28,174 ราย  เม.ย. 38,025 ราย และ ณ 19 พ.ค. 35,984 ราย อีกทั้ง มีจำนวนผู้ประกันตนกลับเข้าสู่การจ้างงาน ในช่วงสี่เดือนแรกปีนี้ รวม 2.39 แสนราย ซึ่งใกล้เคียงกับตัวเลขรวมของปีที่แล้วทั้งปี อยู่ที่ 2.49 แสนราย

     ทั้งนี้  แม้จะเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นในการจ้างงานแรงงานในระบบ นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงต่อกลุ่มธุรกิจSMEs และขนาดไมโคร ที่มีการจ้างงานนอกระบบอยู่มาก  จึงได้สั่งการให้หน่วยงานรัฐออกมาตรการบรรเทาภาระหนี้ และร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคาร 

     เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้เข้าถึงสินเชื่อได้รวดเร็วขึ้น จะได้ยังคงธุรกิจและรักษาการจ้างงานในโอกาสเดียวกัน อีกทั้ง มุ่งเน้นการส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้สอดรับกับความต้องการของภาคธุรกิจควบคู่กันไป


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ