ข่าว

ขอพรที่ลานเทพเจ้า (ภาค 2)

ขอพรที่ลานเทพเจ้า (ภาค 2)

03 ก.พ. 2553

ลานบุญงานตรุษจีนนครสวรรค์เริ่มติดตั้งองค์เทพเจ้า ซึ่งล้วนเป็นองค์ที่มีความหมาย เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลรับปีใหม่จีน

  นายขวัญชัย กาญจนกำแหง รองประธานฝ่ายจัดซื้อจัดจ้าง คณะกรรมการจัดงานแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ ประจำปี 2552-2553 กล่าวถึงเรื่องการนำเทพเจ้าติดตั้งในลานบุญว่า นอกเหนือจากเจ้าแม่กวนอิม กับไท้เสียงเล่ากุน แล้ว เทพทั้งแปด กับสิ่งมงคลทั้งสี่ ก็ล้วนแต่เป็นองค์ที่มีควาหมายดีๆ ทั้งหมด อย่าง กวนอูยืนหรือ “ลี่กวนกง” นั้น เป็นคำเรียกรูปเคารพกวนอูในท่ายืน ถ้าได้กราบไหว้ ก็เชื่อกันว่าจะเป็นการช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายนานาและอุปสรรคทั้งมวลให้ผ่านพ้นไป เพราะดูจากท่าทางของท่านที่สองตาเขม็งเพ่งมองไปด้านหน้ามือขวา มักจะถือง้าวมังกรเขียวไว้ข้างกาย มีท่วงท่าที่องอาจงามสง่าพร้อมออกศึก
 
 สำหรับ ไฉ่ซิงเอี๊ยะ แล้ว ชาวจีนถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ นับเป็นเทพเจ้าที่ได้รับการกราบไหว้มากที่สุดองค์หนึ่ง และยังเป็นเทพที่ชนทุกชั้นนิยมกราบไหว้บูชา ไม่ว่าคนนั้นจะยากดีมีจนแค่ไหน

 ดังนั้นความเชื่อของคนจีนคือการกราบไหว้บูชา “ไฉ่ซิงเอี๊ยะ” จะนำมาซึ่งความสุขสมหวังในทรัพย์สมบัติมากมายตลอดทั้งปี อีกทั้งเทพเจ้า “ไฉ่ซิงเอี๊ยะ” เป็นเทพองค์แรกที่ชาวจีนต้องกราบไหว้เป็นองค์แรกของปีใหม่จีน เพื่อความเป็นสิริมงคลลในวันแรกของปีใหม่

 พระสังกัจจายน์ หรือ “มี่เล่อฝอ” หรือที่นิยมเรียกกันว่า “พระสังกัจจายน์โพธิสัตว์” จะเป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะอ้วนพลุ้ย เปลือยอก มีใบหน้าสดชื่นร่าเริง สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส สองหูยาวจรดบ่า มักเห็นท่านในลักษณะท่านั่งอย่างสบายอารมณ์ และปรากฏเด็กๆ วิ่งรายล้อมอยู่รอบตัวพระสังกัจจายน์ เด็กชายทั้งห้าคน เป็นความหมายที่แฝงถึง “อู่ฝู” หรือความสุขห้าประการ อันถือเป็นความสุขที่เที่ยงแท้ของมนุษย์

 พระสังกัจจายน์ จึงถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งความสุขสมหวัง และมีความหมายที่ดีสำหรับใช้เป็นภาพอวยพรให้แก่กันและกัน เพื่อให้การดำเนินชีวิตใดๆ สำเร็จสมประสงค์ และเพียบพร้อมด้วยปีติสุขตลอดไป

 ฉีเทียนต้าซื่อ หรือ “ซุนหงอคง” เป็นเทวดาที่กำเนิดจากหินศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาฮวยก๊วยซัว ซุนหงอคงได้เดินทางและพบกับอาจารย์ ผูกีโจวซือ ผู้ซึ่งสั่งสอนธรรมอันวิเศษให้หงอคงได้ปฏิบัติฝึกหัดโดยเคร่งครัดเป็นเวลา 3 ปี จนแตกฉาน และได้สอนวิชาแปลงร่าง 72 ประการ และให้คาถาสำหรับใช้เหาะเหิน กำจัดเหล่าปีศาจจำนวนมาก จนกระทั่งฝ่าฟันอุปสรรค จนสุดท้ายเดินทางไปถึงชมพูทวีปได้สำเร็จ และพระยูไลฮุดโจ้ว ทรงแต่งตั้งให้เป็นเต้าเจี่ยนเส่งฮุด หรือพระมารวิชัยพุทธะ แปลว่า พระผู้รบชนะเหล่ามารทั้งปวง

 อูฮ้วยไต้เจียงกุน (เทพไท้ส่วยประจำปี) เทพเจ้าไท้ส่วย เอี๊ย กง ถูกยกย่องให้เป็นเทพเจ้าแห่งปี หรือเทพเจ้าแห่งฤดูกาล มาในราชวงศ์หมิง ได้รับการนับถือและยกย่องให้เป็นเทพเจ้าผู้ดูแลทุกข์สุขดวงชะตาของมนุษย์ทั่วไป คือเทพเจ้าที่มาเสวยอายุ และคุ้มครองมนุษย์ชาติในโลก แต่ละปีเกิดจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป

 เทพฮูโต๋ (เทพรักษาโรค) หรือ “ฮั้วท้อเซียนซือ” เป็นหมอที่มีชื่อเสียงมากในประเทศจีนสมัยสามก๊ก นับเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ในสรรพวิทยาการแพทย์ของจีน โดยเฉพาะด้านการผ่าตัด การวางยาสลบ ที่ยอดที่สุดคือ เป็นหมอที่สามารถรักษาคนที่ไม่มีทางรักษาแล้วให้กลับเป็นปกติได้ จึงได้รับฉายาว่าหมอเทวดา หรือเซียนหมอ หรือผู้วิเศษ

 เชื่อกันว่าคนที่มีอาชีพช่วยเพื่อนมนุษย์ บูชาท่านด้วยการประกอบอาชีพสุจริต การงานย่อมเจริญรุ่งเรือง บ้านใดมีคนป่วยอยู่จำเป็นต้องรักษานาน บูชาหมอฮูโต๋จะได้ผลดีมาก

 เทพทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ประชาชนสามารถไหว้เพื่อขอพรได้ที่บริวเวณลานบุญ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในงานตรุษจีนนครสวรรค์ ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 7-18 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตให้มีความสุขตลอดทั้งปี

"ทีมงานคุณภาพชีวิต"