ข่าว

ส.ส. ภท. "ศุภชัย ใจสมุทร"อัด นายกฯ กลางสภา ไม่ให้เกียรติ " อนุทิน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ศุภชัย ใจสมุทร"ลูกพรรคภูมิใจไทย อัด" นายกฯ" กลางสภา ไม่ให้เกียรติ"อนุทิน" ตัั้งเลขาฯสมช.ข้ามหัว วอนให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล จวกรัฐราชการล้วงลูกจัดสรร "งบ 65" ด่านนายกฯยันให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล แจงไร้ปัญหากับ "อนุทิน" ขออย่าสร้างความเกลียดชัง  

วันนี้(2 มิ.ย.64) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณราชจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นอภิปรายว่า 2 วันที่ผ่าน จะเห็นว่า สมาชิกพรรคภูมิใจไทยสะท้อนให้เห็นถึงระดับโครงสร้างของประเทศ ที่จำเป็นต้องมีการจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอ โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข

แต่กลับพบว่า งบประมาณของกระทรวงกลับถูกหน่วยงานอื่นนำไปพิจารณา ทำนองว่า “คนทำไม่ได้ใช้คนใช้ไม่ได้ทำ” โดยเฉพาะงบจัดซื้อวัคซีนที่ถูกตัดไปอยู่ในหน่วยอื่น ไม่ได้อยู่ในการดูแลของกระทรวงซึ่งมีหน้าที่นี้ นายศุภชัย กล่าวว่า สิ่งที่ “ภูมิใจไทย” พยายามสะท้อนคือ สำนักงบประมาณไม่รู้ไม่เข้าใจไม่มีการสัมผัสถึง ไม่อยากพูดว่าใจดำ  
“สำนักงบประมาณอาจจะอยู่ในห้องแอร์ หรืออยู่ในหอคอยงานช้าง จึงไม่เข้าใจปัญหาไม่รู้ว่าสิ่งที่ไม่ควรจัดเป็นอย่างไร ไม่ทราบว่าตั้งใจหรือไม่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเกิดผลกระทบกับประชาชน”

 

นายศุภชัย กล่าวว่า ในการชี้แจงวานนี้ (1มิ.ย.) ได้รับคำตอบสายใจจากนายกฯ ที่ยืนยันว่า งบของกระทรวงยังมีอยู่ครบ ไม่ว่าจะเป็นงบกลาง หรือ พ.ร.ก.กู้เงิน ก็ต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าการอภิปรายของ ส.ส.พรรคเกิดจากความน้อยใจ แต่เมื่อท่านนายกฯ ออกมาชี้แจงเราก็ขอบคุณ

“แต่เรายังติดใจนำข้อเสนอของพรรคไปพิจารณาต่อไป ด้วยความเข้าใจ  พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคร่วมรัฐบาล การอยู่ร่วมกันจะต้องอยู่ร่วมกันแบบเข้าใจกัน”

ในการจัดสรรงบประมาณวันนี้ มีความพยายามใช้รัฐราชการเข้ามาแทรกแซงการจัดสรรงบครั้งนี้ โดยสำนักงบประมาณยังทรงอิทธิพลในการทำงานอย่างแยบยล จนทำให้กระบวนการเสียหาย ซึ่งตนไม่เชื่อว่านายกฯจะทราบเรื่องนี้

“ในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย พวกผมทำงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลด้วยความจริงใจ ขณะที่คุณอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ก็ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ แต่การโอนอำนาจกระทรวงสาธารณสุขไปอยู่ที่ศบค. ซึ่งมีการดำเนินการโดยเลขาฯสมช. ซึ่งเป็นข้าราชการซี 11 แต่กลับมีอำนาจมากกว่า  ท่าน (นายกฯ) จะรู้หรือไม่ว่าเรารู้สึกอย่างไร”

นายศุภชัย กล่าวว่า ยืนยันว่า นายอนุทิน พร้อมที่จะทำตามคำสั่ง เพียงแต่ให้ท่านสั่งมาและพร้อมที่จะทำงานร่วมกันต่อไป เพื่อประโยชน์ของประชาชน แต่การทำงานต้องปรับแนวคิดกันใหม่ ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน

“พรรคภูมิใจไทยยังตั้งใจที่จะสนับสนุนรัฐบาลนี้ต่อไป ตราบเท่าที่เราทำงานด้วยความให้เกียรติและไว้เนื้อเชื้อใจซึ่งกันและกัน” แต่ขอเรียกร้องว่า อย่าใช้รัฐราชการเพื่อมาลดทอนฝ่ายนิติบัญญัติ สิ่งนี้จึงอยากฝากไปยังรัฐบาล มีการเคยกล่าวว่า ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายเราจะใช้จ่ายอย่างไรเพื่อความคุ้มค่าที่สุด ภูมิใจไทย ขอยืนยันว่า จะร่วมมือในการฟันฝ่าอุปสรรคครั้งนี้ไปให้ได้“ยืนยันว่าพรรคจะลงมติรับหลักการร่างพงร.บ.ในวาระแรก” นายศุภชัย กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ชี้แจงกรณีถูก นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย พาดพิงในประเด็นการไม่ให้เกียรติรัฐบาล โดยเฉพาะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ว่า ในการทำงานตนให้เกียรติรองนายกรัฐมนตรีทุกคน

"โดยเฉพาะรองนายกฯ และรมว.สาธารณสุขยืนยันว่าไม่มีปัญหาในเรื่องการทำงาน แต่ต้องรับฟังข้อมูลจากหลายภาคส่วนทั้งสาธารณสุข, ศบค, และสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) แต่ต้องให้ความสำคัญกับกรมต่างๆ ของกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก แต่การมีกฎหมายกว่า 30 ฉบับ จำเป็นต้องมีการบูรณาการร่วมกันมีขั้นตอนที่ชัดเจน การที่บอกว่าไม่ให้เกียรติ คิดว่าคิดคนละทางมากกว่า "

ส่วนที่มีการท้วงติงว่าไม่ให้เกียรตินายอนุทินนายกฯชี้แจงว่า การให้เป็นที่ปรึกษาศบค.ไม่ได้หมายความว่าให้รมว.สาธารณสุข ไปเป็นที่ปรึกษาเลขาฯ สมช. แต่เป็นที่ปรึกษาตน

ในเรื่องการจัดหาวัคซีนยืนยันว่า พยายามที่จะจัดสรรให้มีความเพียงพอ ส่วนการโยกงบไปไว้ในงบกลางยืนยันว่า ไม่ได้โยกไปเพื่อให้ใครโดยเฉพาะ ตนเปิดโอกาสให้พรรคร่วมรัฐบาลเสนอโครงการขึ้นมา โดยต้องผ่านขั้นตอนตั้งแต่คณะกรรมการระดับจังหวัด และต้องทำให้ถูกต้อง

“ยืนยันว่าผมและท่านรองนายกฯและรมว.สาธารณสุข พูดคุยกันเสมอผมให้เกียรติทุกคน ถ้าอะไรมีประโยชน์ผมพร้อมให้เสมอ”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า “ผมถามท่านรองนายกฯ เสมอว่าจะเอาคืนไปหรือไม่ แต่ท่านรองนายกฯตอบว่ายัง คนเดียวทำไม่ไหว เพราะนอกเหนือจากสาธารณสุขแล้ว ไม่สามารถไปสั่งการข้าราชการได้

“กรณีดังกล่าวหากไม่มีใครพาดพิงให้ผมเสียหาย ผมก็ไม่ตอบโต้ ผมขออย่างเดียวอย่าสร้างความเกลียดชังกันให้มากนัก วันนี้ประเทศไทยต้องการความสามัคคีเพื่อผ่านเรื่องดังกล่าวไปให้ได้” นายกฯ กล่าวทิ้งท้าย

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ