ข่าว

เปิดอัตราโทษ 3 ข้อหา "ลุงพล" สูงสุดจำคุก 15 ปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดอัตราโทษ 3 ข้อหา ตามหมายจับ "ลุงพล" ผู้ต้องหาคดี "น้องชมพู่" สูงสุด จำคุก 15 ปี

จากกรณีที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร อนุมัติหมายจับ เลขที่ 53/2564 ลงวันที่ 1 มิ.ย.64 ให้จับกุมนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล  ผู้ต้องหา คดี "น้องชมพู่" เสียชีวิตปริศนา บนภูเหล็กไฟ ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.2563 ผ่านไปนานกว่า 1 ปี ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับ "ลุงพล" ใน 3 ข้อหา โดยในแต่ละข้อหามีรายละเอียดอัตราโทษ ดังนี้ 

1.พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยไม่มีเหตุอันสมควร ไปเสียจากบิดามารดา ไม่ว่าเด็กจะยินยอมไปด้วยหรือไม่

ข้อหานี้ เข้าข่ายเป็นความผิดข้อหาพรากผู้เยาว์ตามมาตรา 317 (6)  ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี  และ ปรับตั้งแต่ 60,000 - 300,000 บาท   หรือ ทั้งจำ ทั้งปรับ 

2. ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย

ข้อหา นี้ตรงกับมาตรา 306 ที่ระบุว่า ผู้ใดทอดทิ้งเด็กอายุยังไม่เกินเก้าปีไว้ ณ ที่ใด เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. กระทำการใดๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

ข้อหานี้เข้าข่ายความผิด ตรงกับมาตรา 150 ทวิ ที่ระบุว่า ผู้ใดกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม ในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นในประการที่น่า จะทำให้การซันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป (เว้นแต่ จำเป็นต้องกระทำเพื่อป้องกันอันตรายแก่อนามัยของประชาชนหรือเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างอื่น) ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน - 2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000 - 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นการกระทำโดยทุจริต หรือเพื่ออำพรางคดีผู้กระทำ ต้องระวางโทษเป็นสองเท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว "ลุงพล" ได้แล้ว พนักงานสอบสวนต้องทำการสอบปากคำ ภายใน 48 ชั่วโมง จากนั้นจึงจะเข้าสู่ขั้นตอนการยื่นประกันตัว (หากมีผู้ร้องขอ) หรือฝากขังหากต้องสอบสวนต่อเพิ่มเติม

ซึ่งกรณี "ลุงพล" ที่มาปรากฎตัวที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตามหมายจับ จึงถูกส่งกลับไปให้พนักงานสอบสวน สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

 

 

ที่มา  : 

สถาบันนิติธรรมาลัย

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ