ใครอยู่เบื้องหลัง ขบวนการค้าสัตว์ข้ามชาติในไทย รับใช้นายทุนจีน 

คดีขยายผลการจับขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่า ที่กองปราบได้สกัดจับพร้อมช่วยเหลือ ลิงแสม มาได้ 102 ตัว ก่อนนำไปให้ ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1 (นครนายก) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ดูแล 

สำหร้บคดีนี้ภายหลังกองปราบได้จับกุมขบวนการค้าสัตว์นี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางกองบัญชาการสอบสวนเล็งเห็นว่าคดีนี้ต้องขยายความออกไปสาวไปให้ถึงต้นตอของขบวนการ ไม่ใช่เพียงจับที่ปลายน้ำ จึงเตรียมที่จะขอโอนคดีมาให้ทาง  กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ดำเนินการต่อ  

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เช็ก 'ดีเอ็นเอลิง' หาแหล่งที่มา หลังถูกขบวนการค้าสัตว์ข้ามชาติจับมา 

ข้อมูลในทางสืบสวนพบว่า ลิงแสมที่ขบวนการดังกล่าวลักลอบขน ส่วนใหญ่จะเป็นลิงที่อาศัยอยู่ตามริมป่าเขา หรือสวนสาธารณะต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคกลาง จ.พิจิตร จ.อ่างทอง จ.นครสวรรค์ จ.สุพรรณบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง 

โดยมักเลือกลิงที่อาศัยอยู่ชุกชุม เนื่องจากลิงมีพฤติกรรมไม่กลัวผู้คน ง่ายต่อการลักลอบจับ 

ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของผู้ต้องหาในคดีนี้ที่ถูกจับกุมตัวยอมรับว่าวิธีการจับลิงไม่ซับซ้อนเพียงแค่นำเศษอาหาร ผลไม้ หรือ อาหารที่ลิงเหล่านี้ขอบ วางไว้ท้ายกระบะบรรทุกแบบมีหลังคาปิดทึบ 

จากนั้นก็นำไปจอดเปิดท้ายทิ้งไว้ล่อให้ลิงเข้ามากินอาหาร เมื่อมีลิงเข้ามากินอาหารมากพอตามที่ต้องการก็จะปิดประตูขังแล้วรีบขับรถออกมาจากพื้นที่ทันที 
       
ทางการสืบสวนยังพบด้วยว่า นอกจากผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัว ยังมีผู้ร่วมขบวนการรายอื่นอีกหลายคน เป็นขบวนการใหญ่ มีนายทุนเป็นขาวจีน ที่ผ่านมามีการลักลอบขนสัตว์ป่าข้ามฝั่งไปประเทศเพื่อนบ้านมาแล้วหลายครั้ง  เฉพาะเดือนที่ผ่านมาพบ 11 ครั้ง ซึ่งชนิดหรือประเภทสัตว์ป่าที่จะถูกส่งไปขึ้นอยู่กับออร์เดอร์ที่สั่งมาจากนายทุน ส่วนใหญ่จะเป็น ลิงแสม ตัวนิ่ม เต่า และสัตว์ชนิดอื่นๆที่นิยมนำไปปรุงอาหาร

จากการแกะรอยเส้นทางขนลำเลียงพบว่า ผู้ต้องหารายนี้ จะขับรถนำสัตว์ป่าจากพื้นที่ภาคกลางมุ่งตรงมายังพื้นที่ จ.สระแก้ว ที่มีพื้นที่ติดกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดยตลอดเส้นทางจะมีรถขับนำทางเพื่อดูลาดเลา เมื่อเข้าสู่พื้นที่ จ.สระแก้ว ก็จะนัดหมายส่งต่อรถบรรทุกสัตว์ป่าให้กับผู้ร่วมขบวนการอีกคนที่ทำหน้าที่ขับรถข้ามฝากไปยังประเทศเพื่อนบ้าน 

ซึ่งรออยู่ในแทบพื้นที่ตะเข็บชายแดน ก่อนจะสลับเปลี่ยนรถแลกกันยกคัน จากนั้นผู้ต้องหาก็จะขับรถเปล่าที่แลกเปลี่ยนกลับมาแทน อีกทั้งจากการตรวจสอบพบว่ารถส่วนใหญ่ที่ใช้ขนลำเลียงจะเป็นรถผิดกฎหมายดัดแปลงสวมทะเบียนอำพรางเพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ 

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการเริ่มต้นสืบสวนเพื่อขยายผลการจับกุมเพื่อยรวมขบวนการทั้งหมดให้สิ้นซาก เนื่องจากปัญหาสัตว์ป่าเป็นปัญหาสำคัญระดับประเทศ ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ