เอาผิดครูพละหื่นคุกคาม นักเรียนหญิงร้องมูลนิธิปวีณาช่วย แฉยัดเงินแลกถอนฟ้อง

สืบเนื่องจากกรณีเด็กนักเรียนหญิง อายุ 17 ปี ใน อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ได้แคปภาพการสนทนาที่หน้าเฟซบุ๊กของครูสอนพละชายคนหนึ่ง ซึ่งสอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู โดยมีข้อความทำนองบังคับให้เด็กมาหาที่บ้านพักโดยห้ามไม่ให้บอกใครเพื่อให้มาแก้ 0 ซึ่งเป็นการกลั่นแกล้ง ซึ่งเด็กนักเรียนหญิงคนนี้ก็ได้ตอบกลับไปว่าทำงานส่งหมดแล้วทำไมถึงจะให้ติด 0 และมีการเสนอเงินเพื่อซื้อบริการทางเพศจากเด็กนักเรียนหญิงรายนี้อีกด้วย

อีกทั้งครูพละคนนี้ยังใช้ถ้อยคำเชิงข่มขู่ ขณะเกิดเหตุเด็กนักเรียนหญิงอายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 ตั้งแต่ปี 2561 จนตอนนี้อายุ 17 ปีครูพละคนดังกล่าวก็ยังไม่หยุดคุกคาม ซึ่งตอนเกิดเหตุนั้นได้เล่าให้ผู้ปกครองฟัง ผู้ปกครองจึงได้โทรคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาและได้พูดคาดโทษครูพละคนนี้ไว้ว่า "อย่าทำแบบนี้อีก" แต่ก็ยังไม่หยุด ต่อมาเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2564 ทางผู้ปกครองได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.โนนสัง เรียบร้อยแล้ว

สอบถาม น.ส.เอ (นามสมมติ) เด็กนักเรียนหญิง อายุ 17 ปี ได้เล่าว่า ยังไงก็จะไม่ยอมความเพราะตนเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ และจะเดินหน้าร้องมูลนิธิปวีณาให้ช่วยเหลือทางคดี เพราะตอนนี้คู่กรณีให้ผู้บริหารระดับสูงมาหาที่บ้านเพื่อเจรจาให้ถอนแจ้งความ โดยจะจ่ายเงินเป็นค่าเยียวยาให้ ซึ่งตนยังคงยืนยันเหมือนเดิมว่าจะไม่ขอรับเงินใดๆทั้งสิ้นและจะดำเนินการให้ถึงที่สุดเพราะไม่อยากให้ครูคนนี้รับราชการต่อไป เกรงว่าจะไปทำพฤติกรรมแบบนี้กับเด็กนักเรียนหญิงคนอื่นๆอีก

ทางด้าน ย่าของ น.ส.เอ (นามสมมติ) ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า มีผู้บริหารของโรงเรียนต้นสังกัดของครูพละ มาพร้อมกับครูผู้หญิง 2 คน รวมทั้งหมด 3 คน เดินทางมาที่บ้านของตนเอง แต่ครูพละคู่กรณีไม่ได้มาด้วย ซึ่งผู้บริหารบอกว่าครูพละยังเก็บตัวอยู่ที่บ้านในจังหวัดชัยภูมิ โดยผู้บริหารแจ้งอีกว่าทางผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษาธิการเป็นห่วงในเรื่องนี้จึงให้ตนมาเจรจาเพื่อจะเยียวยาให้พูดคุยให้จบภายในวันนี้ และครูพละต้นเหตุได้แจ้งว่าจะรับผิดชอบด้วยการลาออก แต่ก็ไม่มีหนังสือคำสั่งมาให้ดูแต่อย่างใด มีแต่พูดลอยๆ

ย่าของ น.ส.เอ (นามสมมติ) กล่าวต่ออีกว่า ตนจึงบอกว่าขอคุยกับหลานสาวก่อนว่าจะเอายังไง ซึ่งทางผู้บริหารระดับสูงของโรงเรียนแห่งนี้ได้พยายามคะยั้นคะยอให้เดินทางไปที่ สภ.โนนสัง เพื่อจะให้ไปถอนแจ้งความอย่างเดียว ซึ่งตนก็บอกว่าให้รอก่อน ทั้งนี้ผู้บริหารก็บอกมาอีกว่าจะให้เยียวยาเป็นเงินเท่าไหร่ให้แจ้งมาเลย ตนก็ตอบกลับไปว่าไม่ต้องการเงิน สิ่งที่ตนต้องการคือความปลอดภัยของหลานสาว ถ้ากลับจากฝึกงานที่กรุงเทพฯมาอยู่ที่จังหวัดหนองบัวลำภู การเดินทางไปมาใครจะรับผิดชอบในความปลอดภัย และที่ทราบมาครูพละคนนี้ชอบดื่มสุราอยู่เป็นประจำ และชอบเอะอะโวยวาย มีพฤติกรรมแปลกๆเวลาเมา ถ้าเกิดมาคุกคามทำร้ายหลานสาวตนจะทำยังไง และตอนนี้ได้พูดคุยกับหลานสาวแล้ว หลานสาวก็ไม่ยอม และจะเดินทางไปขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิปวีณาที่กรุงเทพฯต่อไป

โดย วรรธนะ ทองดี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.หนองบัวลำภู