งามไส้ หลวงพี่เปิดวัดค้ายานรก ตำรวจบุกจับคากุฏิยึดของกลางเพียบ

วันที่ 8 พ.ค. 2564 พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้รับรายจากพลเมืองดีว่ามีแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งมีเครือข่ายเป็นพระภิกษุในวัดราษฏร์ประดิษฐ์ หมู่ 2 ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย รอง ผกก.สส. , พ.ต.ต.เอกราช ทองทิพย์ สวป.สภ.ทุ่งสง นำกำลังตำรวจออกสืบสวนหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

 

 

จนสืบทราบว่านายนราธิป ทิพย์วงศ์ หรือ มืด ถ้ำใหญ่ อายุ 22 ปี เป็นผู้นำยาบ้าออกจำหน่ายให้กับวัยรุ่นในพื้นที่มานานแล้ว ในช่วงวันที่ 6-7 พ.ค.ที่ผ่านมา กำลังตำรวจนอกเครื่องแบบคอยติดตามความเคลื่อนไหวนายนราธิปอย่างใกล้ชิด จนพบว่านายนราธิปได้เข้าไปรับยาเสพติดจากพระภิกษุรูปหนึ่ง ในวัดราษฎร์ประดิษฐ์

 

 

 

จากนั้น พ.ต.ท.ธีระพล จึงส่งสัญญาณให้กำลังตำรวจบุกเข้าจับกุมนายนราธิป หรือ มืด ถ้ำใหญ่ บริเวณหน้ากุฏิของพระลูกวัดราษฏร์ประดิษฐ์ดังกล่าว จากการตรวจค้นในกระเป๋ากางเกงพบยาบ้า จำนวน 3 ถุง รวม 581 เม็ด

 

 

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายนราธิป หรือ มืด ถ้ำใหญ่ ให้การรับสารภาพว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของนายวุฒิชัย จันทร์แก้ว หรือ หลวงพี่พระกุ้ง อายุ 28 ปี ปัจจุบันบวชเป็นพระอยู่ที่วัดราษฏร์ประดิษฐ์แห่งนี้

 

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจค้นภายในกุฏิของหลวงพี่พระกุ้งก็พบกับอุปกรณ์การเสพ 1 ชุด ยาบ้า 56 เม็ดซุกซ่อนในกระเป๋าอังสะที่แขวนอยู่บนฝาผนังกุฏิ สอบสวนหลวงพี่กุ้งให้การรับสารภาพและอ้างว่ายาบ้าจำนวนดังกล่าวมีไว้เพื่อเสพ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เพราะตามแนวทางการสืบสวนทราบว่าหลวงพี่กุ้งเป็นเอเยนต์ค้ายาบ้ามานานแล้ว และบวชเป็นพระเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ไม่ให้สงสัยและให้ง่ายต่อการขายยาเสพติดเท่านั้น โดยมีเมียของหลวงพี่กุ้งเป็นคนเก็บรักษายาเสพติด และนำส่งให้หลวงพี่กุ้งและนายนราธิป หรือ มืด ถ้ำใหญ่ ออกจำหน่ายให้ลูกค้า

 

 

ขณะที่ รอง ผกก.สส.สภทุ่งสง ได้สอบสวนขยายผลก่อนนำกำลังเดินทางไปตรวจค้นที่บ้านของหลวงพี่กุ้ง ซึ่งเป็นบ้านไม่มีเลขที่ อยู่ริมถนนสายบ้านในเปิด หมู่ 1 ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และพบกับ น.ส.นัยนา หรือ อีปอ ห้วยไม้แก่น อายุ 28 ปี ชาว ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเมียของหลวงพี่กุ้งที่อยู่ในบ้าน จากการตรวจค้นภายในบ้านพบยาบ้า 4 ถุง รวม 805 เม็ด จึงควบคุมตัว น.ส.นัยนา เมียหลวงพี่กุ้งมาสอบสวนพร้อมกับหลวงพี่กุ้งและนายนราธิป จนในที่สุดทั้งสามคนให้การรับสารภาพว่าได้ตั้งตัวเป็นเอเยนต์ค้ายาบ้ามานานแล้ว โดยหลวงพี่กุ้งจะเป็นคนคอยติดต่อประสานงานกับเอเย่นต์ใหญ่และลูกค้าผ่านทางไลน์และแชทเฟซบุ๊ค โดยจะสั่งซื้อยาบ้า ยาไอซ์ มาจากเอเยนต์ใหญ่อีกต่อ ทราบชื่อเพียงนายวิรวุฒิ รัตนมณี หรือ เสี่ยตั๊ก อายุ 30 ปี

 

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงขยายผลให้หลวงพี่กุ้งล่อซื้อยาบ้าจากนายวิรวุฒิ หรือ เสี่ยตั๊ก 1 มัด จำนวน 2,000 เม็ด และยาไอซ์ 2 กรัม โดยให้นายวิราวุฒินำยาเสพติดมาส่งที่กุฏิหลวงพี่กุ้ง เมื่อนายวิรวุฒินำยาเสพติดมาส่งตามนัด เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวทันที พร้อมของกลางยาบ้า 1,971 เม็ด ยาไอซ์ 2 กรัม

 

 

ตำรวจจึงพาหลวงพี่กุ้งให้เจ้าอาวาสวัดราษฏร์ประดิษฐ์ และเจ้าคณะตำบลนาหลวงเสน ทำการสึกจากความเป็นพระ ก่อนจะคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย พร้อมของกลางยาบ้า รวม 3,420 เม็ด ยาไอซ์ 2 กรัม และอุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่ง และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งสง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

สำหรับวัดราษฏร์ประดิษฐ์เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2562 เจ้าหน้าที่เคยบุกเข้าจับกุมพระภิกษุตั้งวงปาร์ตี้เสพยาเสพติด โดยได้ทำการตรวจปัสสาวะพบปัสสาวะเป็นสีม่วง 8 รูป จนกลายเป็นข่าวฉาวโฉ่ทางสื่อมาแล้ว จนกระทั่งครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาบุกจับเครือข่ายหลวงพี่กุ้งเอเย่นต์ค้ายานรกคากุฏิได้ภายในวัดอีกครั้ง

 

 

โดย ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช