ข่าว

'โควิด19' พ่นพิษ แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวเมืองแพร่ ประกาศขายไต-จนท.รุดช่วยเหลือ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พิษโควิด19 เป็นเหตุทำครอบครัวแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวเมืองแพร่ ประกาศขายไต สนง.พัฒนาสังคมฯ แพร่และกำนันต้องรุดให้การช่วยเหลือด่วน

เรื่องราวรันทดของครอบครัวที่ต้องผจญชีวิตจากพิษโควิด19 เกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 เวลา 15.00 น.นายสิทธิพร กาศสกูล กำนัน ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จาก สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.แพร่ เจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดแพร่  รุดไปยังหมู่บ้านรัตนา หมู่ที่ 7 ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ หลังทราบข่าวว่า มีครอบครัวหนึ่งประกาศขายอวัยวะร่างกาย (ไต) เพราะว่า ประสบปัญหาเศรษฐกิจ หลังจากเจอวิกฤตโควิด-19 ระบาดในครั้งนี้ 

เมื่อไปถึงบ้านครอบครัวรันทดนี้พบกับ นายประครอง สารมโน อายุ 47 ปี นางนัฐนิชา สารมโน อายุ 45 ปี อยู่บ้านเช่าเลขที่ 49/62 หมู่บ้านรัตนา หมู่ที่ 7 ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ จ.แพร่  พร้อมพบกับคนในบ้าน 10 ชีวิต ทุกคนอายุยังน้อย และมีผู้พิการทางสมองอีกหนึ่งคน เบื้องต้นคณะทั้งหมดได้มอบเงินช่วยเหลือ 7,000 บาท และเงินส่วนตัวของ กำนัน ต.นาจักร อีก 2 พันบาท พร้อมข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องใช้อุปโภคบริโภค

นางนัฐนิชา สารมโน ภรรยาซึ่งเป็นผู้ที่ประกาศขายไต  ได้เล่าถึงชีวิตรันทดว่า ครอบครัวอพยพมาจาก จ.พะเยา สามีเป็นคนจังหวัดเลย ได้มาทำมาหากินในจังหวัดแพร่ มาร่วม 21 ปี ยึดอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นแชมป์มาโดยตลอด ได้อาศัยขายหน้าบริษัทไทยสมุทรประกันภัย ในหมู่บ้านไทยสมุทร ถนนยันตรกิจโกศล ติดปั๊มน้ำมัน ปตท.ขายเฉพาะกลางคืนเท่านั้น การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้รับผลกระทบกับการค้าขายตั้งแต่ระลอกแรก ช่วงเวลาดังกล่าว ดร.กานต์เปรมปรีม ชิตานนท์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ในปี 2563 เข้าช่วยเหลือจนพ้นวิกฤติในระลอกหนึ่ง มาระลอกที่ 2 ครองครัวยังสู้ไหวกับการเป็นอยู่ 

                'โควิด19' พ่นพิษ แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวเมืองแพร่ ประกาศขายไต-จนท.รุดช่วยเหลือ

นางนัฐนิชา เล่าอีกว่า พอมาระลอกที่ 3 เมื่อทางการมีข้อจำกัดในการประกอบอาชีพ(เวลาปิด-เปิด) ที่สำคัญมีผู้ติดเชื้อรายที่ 12 ของจังหวัดแพร่ มานั่งรับประทานก๋วยเตี๋ยวที่ร้านดังกล่าวทางการจึงมีมาตรการให้ล้างพื้นที่และหยุดขายก๋วยเตี๋ยว เฝ้ารอดูอาการถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง TimeLine (ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ) เมื่อจะต้องหยุดขายก๋วยเตี๋ยวถึง 14-15 วันจากทุนเดิมค่าครองชีพไม่พอใช้จ่ายอยู่แล้วทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถและค่าใช้จ่ายประจำวันอีกมากมาย เมื่อมีวิกฤติในยามนี้ ทางสามี และภรรยาไม่มีทางออกคิดจะหนีไปตายเอาดาบหน้าก็สงสารลูกๆและหลานน้องสาวที่ป่วยทางสมองอีกหนึ่งคน 

ทุกวันนี้อาหารการกินทุกคนในบ้านได้กินข้าวกันเพียงวันละสองมื้อเท่านั้น คือกลางวันและมื้อค่ำเท่านั้น ส่วนมากจะเป็นมาม่าและไข่เป็นหลัก ส่วนข้าวไปซื้อทีละมื้อมาหุงกิน ส่วนมื้อต่อไปพอที่จะมีเงินไปซื้อมาไว้ได้แต่ละมื้อ ตอนนี้ไม่มีเงินติดตัวและในบ้านเลย จนกระทั่งคิดอะไรไม่ออกมองหนทางข้างหน้ามืดแปดด้านจึงได้ปรึกษาสามีว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างที่จะให้ 10 ชีวิตและตัวเองรอดพ้นวิกฤตินี้ได้คือได้บอกกล่าวต่อๆกันว่าจะขายอวัยวะร่างกายส่วนไหนส่วนหนึ่งที่มีผู้ต้องการดังกล่าว

ทางด้าน นางอนงค์ เจริญวัย พัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์ จังหวัดแพร่ กล่าวว่า หลังจากได้รับทราบข่าวเรื่องนี้ก็ได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบ หน่วยงานที่สังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มี 3 หน่วยงาน จึงได้มอบเงินช่วยเหลือในเบื้องต้นกรณีฉุกเฉิน จำนวน 7,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนไปก่อน ส่วนในเดือนต่อๆ ไปก็จะมอบอีกจำนวนหนึ่ง ในระยะยาวก็จะหาอาชีพหรือแนวทางการอื่นๆ หรือประสานองค์กรเอกชน มาช่วยเหลือต่อไป

สมฤทธิ์ ชัยพลังฤทธิ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดแพร่

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ