ตรวจเชิงรุก"คลัสเตอร์ 3 ชุมชน คลองมหานาค เขตดุสิต" หลังพบผู้ติดเชื้อเกือบ 100 ราย เตรียมใช้โมเดลศูนย์แยกกัก ดูแลกลุ่มเสี่ยง

7 พ.ค.64 ที่ โรงหนังแอมบาสเดอร์ สะพานขาว ตลาดสะพานขาว กรุงเทพมหานคร  สำนักงานเขตดุสิต ร่วมกับศูนย์บริการสาธารณสุข และฝ่ายพัฒนาชุมชน ได้ร่วมการอำนวยความสะดวกและทำการเชิงรุกค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ชุมชนคลองมหานาค สำหรับประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง จำนวน 3 ชุมขนคือ ชุมชนวัดญวนคลองลำปัก/ชุมชนบ้านมนังคศิลา/และชุมชนริมทางรถไฟสายแปดริ้ว ซึ่งล่าสุดมีผู้ติดเชื้อแล้ว 98 ราย   โดยมี นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ผู้อำนวยการเขตดุสิต ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของการตรวจคัดกรอง

รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า พื้นที่เขตดุสิต ใน 3 ชุมชนนี้ทำการตรวจไปแล้ว 2 ครั้งพบผู้ติดเชื้อค่อนข้างเยอะ วันนี้ก็เป็นอีกวันที่กรุงเทพมหานครได้มาทำการตรวจเชิงรุกทั้งหมด 350คน แต่มีประชนอาศัยอยู่ค่อนข้างมาก จึงมึแผนที่จะเข้ามาทำการตรวจให้ครอบคลุมมากขึ้น จากเดิมมีแผนตรวจคัดกรอง 3 วัน แต่ต้องโยกจุดตรวจไปที่คลองเตย และบางแค ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ จึงต้องโยกรถตรวจ และกำลังพลไปเสริม แต่ในจุดนี้ ก็จะวางแผนตรวจต่อไป  พร้อมยอมรับว่า ขณะนี้ยังตรวจได้ไม่ครบ 100% เพราะเขตดุสิตมีมากถึง 43 ชุมชน จึงเลือกชุมชนที่มีความเสี่ยงสูงก่อน

ส่วนแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ก็มีทั้งถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย ก็จะตรวจให้ครอบคลุมเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อ และก็จะต้องคัดกรองเพื่อส่งไปยังโรงพยาบาลสนามด้วยเช่นกัน

ส่วนโมเดล ศูนย์แยกกักนั้น  ทางปลัด กทม. สั่งการให้ทุกเขตตั้งศูนย์ขึ้น โดยมี ผู้อำนวยการแต่ละเขตเป็น ผอ.ศูนย์ ในการวางแผน การตรวจเชิงรุก และหาสถานที่กัก รวมถึงวางแผนในการ ฉีดวัคซีนตามลำดับด้วย

ด้าน นางสาวธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.เขตบางซื่อ-ดุสิต พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมที่เข้ามาให้การดูแลช่วยเหลือประชาชน วันนี้ก็ลงพื้นที่มาช่วยอำนวยความสะดวกในการคัดกรองเชิงรุก พร้อมบอกด้วยว่า พื้นที่เขตดุสิตเป็นปัญหาอยู่ 3 ชุมชน ที่เป็นพื้นที่แออัด มีประชากรอาศัยอยู่กว่า 7,000คน และยังมีกลุ่มผู้เสี่ยงสูงกว่า 1,000คน จึงต้องมีการคัดแยกออกมาให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเป็นคลัสเตอร์ใหม่

ทั้งนี้มองว่า ในเขตดุสิต ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ถ้าได้ตรวจทั้งหมดตัวเลขน่าจะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกจากเดิมกว่า 80ราย ดังนั้นจึงอยากให้ตรวจเชิงรุกให้เร็วที่สุด เพื่อแยกผู้ติดเชื้อออกไป 

ส่วนกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ก็ได้เตรียมแผนไว้ดูแลประชาชนใน 2 รูปแบบ คือ การตั้งศูนย์กักแยก เพราะข้อดีของเขตดุสิต คือมีหน่วยทหาร 17 หน่วย จึงได้ทำการประสานความร่วมมือเพื่อนำพื้นที่ของทหารบางส่วนมาเป็นศูนย์กักแยก โดยจะรอสาธารณสุขเข้าไปร่วมตรวจสอบพื้นที่ก่อน เพราะหลายคนไม่สามารถกักแยกตัวเองในบ้านได้ ส่วนแนวทางที่สองคือ สำหรับประชาชนที่ไม่อยากย้ายออกไปกักแยกและเป็นกลุ่มเสี่ยงทั้งครอบครัว ก็สามารถกักแยก 14 วันในบ้านของตัวเองได้ โดยทางฝ่ายพัฒนาชุมชน และสำนักงานเขตก็จะเข้าไปดูแลอาหาร 3 มื้อเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนข้าวสารอาหารแห้ง

ทั้งนี้ก็ขอให้แจ้งข้อมูลเข้ามาโดยละเอียดเพราะบางบ้านมีเด็กเล็ก การช่วยเหลือจึงต้องมีนม และแพมเพิส เพิ่มเติม เพื่อให้เป็นการกักตัวได้อย่างทีประสิทธิภาพ และลดการแพร่เชื้อในชุมชนได้